Page 19 - DDD4
P. 19

11





               2)ป่าไม้ผลัดใบ


          แบ่งได้ 3 ชนิด


             ก.ป่าเบญจพรรณ


          เดินป่าที่มีพรรณไม้เด่นหาชนิดตามความหมายของค าว่า"เบญจ" คือ 5 ได้แก่ไม้สักไม้มะค่า

          ไม้แดงไม้ประดู่และไม้ชิงชันพบปลาชนิดนี้ในบริเวณที่มีฤดูการแบ่งแยกชัดเจนมีช่วงแห้งแล้ง

          ยาวนานมากกว่า 3 เดือนปริมาณน ้าฝนเฉลี่ยอยู่ในช่วง1200-1400มิลลิเมตรต่อปีที่ระดับความสูง

          ตั้งแต่50-800maze เนื้อระดับน ้าทะเล  ต้นไม้เกือบทั้งหมดในป่าเบญจพรรณจะผลัดใบในฤดู

          แล้งประมาณปลายเดือนมกราคมถึงเมษายนป่าเบญจพรรณในประเทศไทยแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ
          ป่าเบญจพรรณที่มีไม้สักเป็นไม้เด่นขึ้นคละกับไม้ที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิดเช่นประดู่

          ชิงชันมะค่าโมงแดงไผ่ไร่ไผ่ซ่างดอยเเละไผ่หกส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือป่าเบญจพรรณที่ไม่มีไม้สัก

          มีพรรณไม้เด่นชนิดอื่นขึ้นแทนเช่นสมอพิเภกเปล้าหลวงเเละส้านเป็นต้นป่าชนิดนี้มีอยู่ทั่วไป

          ในภาคเหนือ ภาคกลางเเละภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยทั่วไปเป็นป่าโปร่งประกอบด้วยต้นไม้

          ขนาดกลางเป็นส่วนมากพื้นที่ป่าไม้รกทึบมีไม้ไผ่ชนิดต่างๆขึ้นอยู่มาก





















             ข.)ป่าเเพะ ป่าเเดง ป่าโคก หรือป่าเต็งรัง

          เป็นป่าผลัดใบที่มีไม้วงยางบางชนิดเป็นไม้เด่นได้แก่เต็งลังเหียงพลวงเเละยางกราดโดยทั่วไป
          ความหนาแน่นของต้นไม้ในป่าเต็งรังจะน้อยกว่าป่าเบญจพรรณเพราะดินตื้นกักเก็บน ้าได้น้อย

          มีหินบนผิวดินมากก่อให้เกิดความแห้งแล้งปลาชนิดนี้มีอยู่มากทางภาคเหนือภาคกลางและภาค

          ตะวันออกเฉียงเหนือโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีมากที่สุดคือปริมาณร้อยละ70-80
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24