Page 12 - Demo
P. 12

หินที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 1 เมตร ส่วนดินที่เกิดจากการไหลซึ่งมีลักษณะเป็นการไหลของ ของเหลวข้นหนืดถูกเรียกว่า “โคลนไหล (Mudflows)” และความหนาแน่นของโคลนไหลเมื่ออยู่ ในสภาพหยุดนิ่งมีค่ามากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อของโคลนไหลนั้นมีความแตกต่างมาก ไม่ได้ เป็นเนื้อเดียวกัน
2) ดินที่เกิดจากการตกตะกอนที่สันดอนหนองน้ําหรือทะเลสาป (Lacustrine Deposits): ดิน ตะกอนสันดอนหนองน้ําหรือทะเลสาปนั้นในแต่ละพื้นจะมีลักษณะที่ต่างกัน ในบริเวณที่มี ภูมิอากาศแห้งแล้งดินตะกอนสันดอนหนองน้ําหรือทะเลสาปจะเป็นดินเม็ดหยาบ (ทรายหรือ กรวด) ในขณะที่บริเวณภูมิอากศชื้นดินตะกอนสันดอนหนองน้ําหรือทะเลสาปจะเป็นดินเม็ด ละเอียด (ดินเหนียวหรือดินตะกอน) โดยดินตะกอนสันดอนหนองน้ําที่เกิดจากน้ําจืดนั้น จะตกตะกอนสลับกันเป็นชั้นๆ ระหว่างดินตะกอนกับดินเหนียว ส่งผลให้คุณสมบัติการไหลของน้ํา ไม่เท่ากันทุกทิศทาง (Anisotropy)
รูปที่ 1.1 ผลการเจาะสํารวจชั้นดินอยู่กับที่ซึ่งเกิดจากการผุพังของหินแกรนิต (Das 2011)
3) ดินที่เกิดจากการพัดพาของน้ํา(AlluvialorFluvialSoil):แบ่งออกเป็น2รูปแบบได้แก่
ก) ดินตะกอนแม่น้ําพาแบบไขว้ (Braided-stream Deposits): เกิดบริเวณที่มีการไหลแบบ ไขว้ ลักษณะการไหลจะเป็นแบบเร็วและมีการกัดเซาะรุนแรง ซึ่งจะพัดพาตะกอนจํานวนมาก
         3
 




























































































   10   11   12   13   14