Page 279 - เอกสารฝนหลวง
P. 279
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
หยดฝนเริ่มแรก (Rain Embryo) และเจริญเติบโตหนาแน่นเป็นเมฆฝนรวดเร็วยิ่งขึ้น เกลือแป้งจึงเป็น
สารที่ใช้ในทุกขั้นตอนกรรมวิธีของกระบวนการเกิดฝนจนถึงปัจจุบัน
2.6 วิธีการ ขั้นตอน กรรมวิธีและเทคนิคการปฏิบัติการทําฝนหวังผลเป็นครั้งแรกควบคู่กับ
การปฏิบัติการค้นคว้าในปี พ.ศ. 2514
การปฏิบัติการหวังผลควบคู่กับการปฏิบัติการค้นคว้าทดลองในปี พ.ศ. 2514 นี้ ยังปฏิบัติการ
ในลักษณะและรูปแบบที่ปฏิบัติการได้ผลดีมาแล้วจากการปฏิบัติการค้นคว้าทดลองที่ผ่านมาในปี
พ.ศ. 2512 และ พ.ศ. 2513 นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาสารเคมีและเทคนิคการทําฝนให้ก้าวหน้าและ
สัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้น มีการนําทิศทางและความเร็วลม รวมทั้งสภาพภูมิประเทศ และสภาพภูมิอากาศ
ประจําถิ่นของพื้นที่เป้าหมายหวังผล และเป้าหมายการค้นคว้าทดลองมาพิจารณาประกอบการวางแผน
ปฏิบัติการประจําวันอย่างถี่ถ้วนมากขึ้น และมีการพัฒนาผงเกลือแป้งเป็นแกนกลั่นตัวที่ได้ผลเช่นเดียวกับ
นํ้าเกลือเข้มข้นพอสรุปได้ดังนี้ :
(1) การวางแผนปฏิบัติการประจําวัน มีการกําหนดพื้นที่เป้าหมายหวังผล หรือ
ค้นคว้าทดลองอย่างชัดเจนและมั่นใจ กําหนดพื้นที่เริ่มต้นปฏิบัติการโปรยสารทดลองทางด้านเหนือลม
ห่างจากพื้นที่เป้าหมายหวังผลเป็นระยะทางที่แน่นอน กําหนดระดับสูงการโปรยสารตามผลการ
หยั่งอากาศและข้อมูลอุตุนิยมวิทยาประจําวัน และรูปแบบหรือวิธีการโปรยตามสภาพเมฆและท้องฟ้า
ในขณะนั้น
(2) การเลือกพื้นที่เริ่มต้นปฏิบัติการ ในการปฏิบัติการครั้งนี้เลือกพื้นที่ที่มีสภาพพื้นที่
เป็นเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้เบญจพรรณที่อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งเกิดเมฆ หรือผลิตเมฆ
โดยธรรมชาติอยู่บ้างแล้วที่เรียกกันว่า เมฆภูเขา (Orographic Cloud) เพราะภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้
มีปัจจัยแปรที่เกื้อกูลต่อการเกิดเมฆกล่าวคือ สภาพอากาศเหนือพื้นที่เทือกเขาที่ปกคลุมด้วยป่าไม้
มีอุณหภูมิตํ่ากว่าและความชื้นสัมพัทธ์สูงกว่าพื้นที่เป้าหมายการทดลอง ซึ่งเป็นพื้นที่ราบโล่งที่เป็นพื้นที่
เกษตรกรรมและทุ่งนา การเริ่มต้นโปรยสารละลายเกลือเข้มข้นผสมกับนํ้าแข็งธรรมดา เพื่อให้อุณหภูมิ
ตํ่ากว่าจุดกลั่นตัว โดยพ่นเป็นละอองหรืออณูนํ้าขวางทิศทางลมเป็นแนวยาว และโปรยก้อนนํ้าแข็งแห้ง
ขนาด 1 ลูกบาศก์นิ้ว ในอัตราการโปรย 100 กรัม ทุก 30 วินาที ทับแนวโปรยแรกที่โปรยนํ้าเกลือเข้มข้น
สามารถกระตุ้นและเร่งเร้าการก่อเกิดเมฆ (หรือเรียกว่า เมฆเกิดใหม่) ให้เกิดเร็วขึ้น และเสริมปริมาณเมฆ
ที่เกิดอยู่เดิม (หรือเรียกว่า เมฆเดิม) ดังกล่าว ให้มีปริมาณเมฆมากยิ่งขึ้น สารทดลองที่โปรยเข้าไป
ในเมฆเดิม ตามแนวโปรยแรกจะเร่งอัตราการเจริญของหยดนํ้าในเมฆให้เติบโตมีขนาดใหญ่ขึ้นและ
หนาแน่นยิ่งขึ้น ซึ่งนําไปสู่การเจริญเติบโตของเมฆทั้งขนาดใหญ่ขึ้น ความสูงของยอดเมฆสูงขึ้นและ
ทวีความหนาแน่นของก้อนเมฆยิ่งขึ้น เมฆเกิดใหม่ที่เจริญเติบโตขึ้นดังกล่าวจะเคลื่อนตัวตามทิศทางลม
ไปทางพื้นที่เป้าหมายหวังผลซึ่งอยู่ใต้ลมที่กําหนดไว้ในแผนปฏิบัติการหวังผลประจําวัน
233