Page 368 - เอกสารฝนหลวง

ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง

ให้สัมฤทธิ์ผล เช่น เทคนิคการชักนํากลุ่มเมฆฝนให้ไปตกเป็นฝนในพื้นที่เป้าหมายหวังผลซึ่งเป็น

พื้นที่อับฝน เทคนิคการใช้นํ้าแข็งแห้งช่วยให้หยดฝนตกลงถึงพื้นดินและทวีปริมาณฝนให้มากขึ้น

4. นักวิชาการของแต่ละคณะปฎิบัติการได้มีโอกาศเพิ่มพูนทักษะ และการเรียนรู้การประยุกต์

เทคโนโลยีการทําฝนให้สัมฤทธิ์ผล จากการที่มีโอกาสสับเปลี่ยนไปปฏิบัติการในพื้นที่เป้าหมาย
ปฏิบัติการ ที่มีสภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศประจําถิ่น และช่วงฤดูกาล ที่แตกต่างกัน

5. ดังกล่าวมาแล้วใน ข้อ 1 – 4 เป็นการสร้างบุคลากรไว้รองรับการขยายขีดความสามารถ
ในการปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งคาดหมายว่าจะมีการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกา และการร้องเรียน

มากขึ้นในปีต่อๆ มาในอนาคต

ที่มาของคําว่าฝนหลวง

 ความสําเร็จของการปฏิบัติการค้นคว้าทดลอง และการปฏิบัติการทําฝนหวังผล นับแต่
ปีเริ่มแรก พ.ศ. 2512 จนถึง พ.ศ. 2516 ซึ่งเป็นปีที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบันทรงประมวล

ผลสัมฤทธิ์ที่ทรงมั่นพระทัยแล้ว มาทรงประดิษฐ์คิดค้นเป็นเทคโนโลยีการทําฝน นับว่าทรงบรรลุ
ความสําเร็จในขั้นตอนการวิจัยแล้ว พระราชทานให้ใช้เป็นหลักการในการปฏิบัติการทําฝนหวังผล

ในการกู้ภัยแล้งช่วยเหลือราษฎร แต่การพัฒนาเทคนิคเสริม หรือ การพัฒนาเทคนิคต่อยอดเทคโนโลยี
การทําฝนหวังผลเพื่อการประยุกต์เทคโนโลยีให้ก้าวหน้าและสัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้น ดังที่ได้ทรงประดิษฐ์

คิดค้นไว้เป็นแบบอย่างและแนวทางไว้บ้างแล้วในปีที่ผ่านมา เพื่อให้นักวิชาการทําฝนเกิดแรงบันดาลใจ

ในการพัฒนาเทคนิคให้สัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้น ให้ทันกับเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน
และอนาคต

 กิตติศัพท์ความสําเร็จของการปฏิบัติการค้นคว้าทดลองและการปฏิบัตการทําฝนหวังผล

ได้รับการเผยแพร่โดยปากต่อปาก และผ่านสื่อสารมวลชนทุกแขนง ออกไปสู่การรับรู้และยอมรับ
ของสาธารณชนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีกิจกรรมดัดแปรสภาพอากาศทั้งในเขต

ร้อนและเขตหนาว และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลกแห่งสหประชาชาติ

 ด้วยความสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ เกษตรกรผู้ประสบเคราะห์กรรม

อันเนื่องมาจากภัยแล้งซํ้าซากจนยากไร้ลําเค็ญอยู่กันไปตามยถากรรม เมื่อได้รับความช่วยเหลือโดย

เทคโนโลยีการทําฝนจนรอดพ้นความเสียหาย ต่างไม่อยู่ในฐานะที่จะสนองพระเดชพระคุณได้
จึงแสดงออกด้วยความจงรักภักดี โดยการเรียกฝนที่ตกลงมาในระหว่างการปฏิบัติการทําฝนตามการ
ทูลถวายฎีกาว่าฝนในหลวงบ้าง ฝนพระราชทานบ้าง แต่คําว่าฝนหลวงนิยมเรียกกันแพร่หลายมากกว่า

ทั้งในหมู่ประชาชน และสื่อมวลชน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้คํา “ฝนหลวง” เพราะมี

ความหมายอย่างชัดเจน ซึ่งบ่งบอกถึงความสําคัญอยู่ในตัวแล้ว เป็นคําที่กะทัดรัดง่ายต่อความเข้าใจ
และสะดวกในการสื่อสาร ดังนั้นคําว่าฝนหลวงเกิดขึ้นจากประชามติโดยแท้

320