Page 681 - เอกสารฝนหลวง
P. 681
ประมวลและยืนยันผลสัมฤทธิ์ฯ เอกสารเฉลิมพระเกียรติฝนหลวง
3.2 การทําฝนต้องรู้จักพื้นที่ ท้องที่ต้องการฝน ต้องเข้าใจคําว่า ลุ่มนํ้า ฝนตกลงสู่ลุ่มนํ้า
ต้องขีดเส้นแสดงขอบเขตลุ่มนํ้าจากยอดส่วนบนของลุ่มนํ้าลงมาจนถึงตัวเขื่อน ฝนลงในลุ่มนํ้าไม่เสีย
มีแต่ประโยชน์ลงบนเขาก็ได้ แต่ต้องอยู่ในเขตลุ่มนํ้า ไม่ใช่ลงที่ลุ่ม ลงในป่าทําให้ป่าชุ่มชื้น และ
บางส่วนไหลลงมา
3.3 แม้ไม่ไหลลงสู่เขื่อน กลางคืนป่าเย็นมีความชื้น นํ้าจะลงมา ถ้าไม่มีป่าไม้พื้นดินจะร้อน
ถ้าฝนตกเหนือพื้นที่ดินร้อน จะสะท้อนหรือระเหยและถูกพัดพาไป ฝนตกในป่าทําให้ป่าเจริญเติบโต
3.4 ในการปฏิบัติการที่นี่ ว.4 ให้แก่งกระจานและปราณบุรี ปีที่แล้ว (2543) เขื่อนเร่ง
ปล่อยนํ้าออกเมื่อเก็บกักได้ถึง 65% เพื่อรอรับฝนที่เคลื่อนมาจากทะเล แต่การเร่งปล่อยนํ้าลงท้ายเขื่อน
ทําให้พื้นที่เพาะปลูกใต้เขื่อนชุ่มชื้นจนอิ่มตัว เมื่อฝนจากทะเลเข้ามาจะตกลงสู่พื้นที่ใต้เขื่อน ไม่เคลื่อน
เข้าสู่เขื่อน ทําให้นํ้าท่วมได้ จึงแนะนําให้เก็บกักจนถึงอย่างตํ่า 80% ก่อน เพื่อมิให้ฝนตกท้ายเขื่อนก่อน
จูงให้เคลื่อนเข้าตกในลุ่มรับนํ้าของเขื่อนทั้งสอง ปรากฏว่าได้ผลตามนี้ จึงมีปริมาณนํ้าเก็บกักเพียงพอ
สามารถระบายนํ้าได้ทัน กรณีฝนตกหนักเหนือเขื่อนและสามารถจัดสรรไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่า
กรณีฝนน้อย
3.5 เขื่อนป่าสักเป็นอีกกรณีหนึ่งที่ให้กักนํ้าถึงเกือบ 100% ช่วยให้ลุ่มนํ้าเจ้าพระยาตอนล่างสุด
และ กทม. ไม่เกิดอุทกภัย
3.6 ฉะนั้น ต้องรู้วิชาการอุตุนิยมวิทยา หากมีปริมาณฝนน้อยในที่แห่งหนึ่ง อาจจูงฝน
จากที่หนึ่งที่มีปริมาณฝนสูงกว่าเข้ามาสู่ที่น้อยกว่าได้ แม้พายุยังอาจชักจูงเข้ามาได้
ม.ร.ว.เทพฤทธิ์ เคยจูงพายุเข้าสู่ไร่ข้าวโพดทําให้รอดพ้นความเสียหาย โดยทําฝนหลวง
กับกลุ่มพายุหมุนเล็กๆ ให้ก่อรวมตัวเป็นเมฆฝนต้องพิจารณาทิศทางลม แนะนําให้วางแผนปฏิบัติการ
ตามแนวทิศทางลมตามลําดับ 1 – 2 – 3 ต้องทําซํ้าเรื่อยๆ โดยวางแผนส่งข่าวผ่านข่ายวิทยุตํารวจ
3.7 การทําฝนต้องศึกษาทิศทางลม สมัยก่อนคุณเมธาเคยถามว่า ทําฝนแนวไหนจึงจะได้ผล
ได้ให้คําแนะนําว่าต้องทําต้นลม เมื่อทําแล้วต้องติดตามผล แต่ก่อนได้รับรายงานจากราษฎรและ
เจ้าหน้าที่ต่างๆ ในพื้นที่ ทั้งตํารวจตระเวนชายแดน ตํารวจภูธร เจ้าหน้าที่ระดับตําบล ทําให้ทราบผล
และวางแผนได้ สมัยก่อนใช้กระป๋ องวัดฝนต้องเทนํ้าใส่ที่ตวงวัดฝนจึงจะทราบว่า ฝนตกกี่มิลลิเมตร
บางครั้งราษฎรที่รายงานไม่เข้าใจ บางครั้งฝนตกเพียงหนึ่งมิลลิเมตร ดูน้อยจึงเอามารวมกันจนเป็น
100 ม.ม. หรือเลื่อนกระป๋ องไปรองรับที่ชายคา วัดได้ถึง 300 ม.ม. จึงต้องทําความเข้าใจหน่วยวัดฝน
3.8 ไปอีสาน ลงจากเทือกเขาภูพาน ถึงสี่แยกอําเภอสหัสขันธ์ และอําเภอกุฉินารายณ์
จังหวัดกาฬสินธุ์ พบประชาชนเจอสภาพแห้งแล้ง ไม่มีฝน แต่เมื่อฝนตกนํ้าท่วมเพราะไม่มีป่า
สังเกตเห็นว่ามีเมฆ แนวทางแก้ไข ถ้ามีเมฆ ทําฝนได้ มีฝนต้องสร้าง Check – dam เมื่อมีเขื่อน
มี Check – dam ให้ทําฝน Check – dam คิดทํามานานแล้วกว่า 50 ปี แม้ที่ทะเลน้อย ไม่มีนํ้า
614

