Page 78 - 07_ความรเบยงตนเกยวกบกฎหมาย_Neat
P. 78
๖๙
ÊÔ·¸Ô㹡Ãкǹ¡ÒÃÂØμÔ¸ÃÃÁ
รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ไดบัญญัติไว ในมาตรา ๒๙ ดังนี้
บุคคลไมตองรับโทษอาญา เวนแตไดกระทําการอันกฎหมายที่ใชอยูในเวลาที่กระทํานั้น
บัญญัติเปนความผิดและกําหนดโทษไว และโทษที่จะลงแกบุคคลนั้นจะหนักกวาโทษที่บัญญัติไวใน
กฎหมายที่ใชอยูในเวลาที่กระทําความผิดมิได
ในคดีอาญา ใหสันนิษฐานไวกอนวาผูตองหาหรือจําเลยไมมีความผิด และกอนมีคําพิพากษา
อันถึงที่สุดแสดงวาบุคคลใดไดกระทําความผิด จะปฏิบัติตอบุคคลนั้นเสมือนเปนผูกระทําความผิดมิได
การควบคุมหรือคุมขังผูตองหาหรือจําเลยใหกระทําไดเพียงเทาที่จําเปน เพื่อปองกันมิให
มีการหลบหนี
ในคดีอาญา จะบังคับใหบุคคลใหการเปนปฏิปกษตอตนเองมิได
คําขอประกันผูตองหาหรือจําเลยในคดีอาญาตองไดรับการพิจารณาและจะเรียก
หลักประกันจนเกินควรแกกรณีมิได การไมใหประกันตองเปนไปตามที่กฎหมายบัญญัติ
¡Òè‹Ò¤‹Òμͺ᷹ᡋ¼ÙŒàÊÕÂËÒÂáÅФ‹Ò·´á·¹á¡‹จําàÅÂ㹤´ÕÍÒÞÒ
เรื่องนี้มีบัญญัติไวใน พ.ร.บ.คาตอบแทนผูเสียหายและคาทดแทนและคาใชจายแกจําเลย
ในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ ที่ควรทราบดังนี้
“จําàÅ” หมายความวา บุคคลซึ่งถูกฟองตอศาลวาไดกระทําความผิดอาญา
“¤‹Òμͺ᷹” หมายความวา เงิน ทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใดที่ผูเสียหายมีสิทธิ์ไดรับ
ตอบแทนความเสียหายที่เกิดจากหรือเนื่องจากมีการกระทําความผิดอาญาของผูอื่น
“¤‹Ò·´á·¹” หมายความวา เงิน ทรัพยสินหรือประโยชนอื่นใดที่จําเลยมีสิทธิ์ไดรับ
เนื่องจากการตกเปนจําเลยในคดีอาญาและถูกคุมขังระหวางการพิจารณาคดีและปรากฏวาคําพิพากษา
ถึงที่สุดในคดีนั้นฟงเปนยุติวาจําเลยมิไดเปนผูกระทําความผิดหรือการกระทําของจําเลยไมเปนความผิด
ñ. ¤ÇÒÁ¼Ô´·Õè¡ÃÐทําμ‹Í¼ÙŒàÊÕÂËÒÂÍѹÍҨ䴌ÃѺ¤‹Òμͺ᷹ ตองเปนความผิดดังตอไปนี้
(มาตรา ๑๗)
๑. ความผิดเกี่ยวกับเพศ เชน ความผิดฐานขมขืนกระทําชําเรา เปนตน
๒. ความผิดตอชีวิต เชน ความผิดฐานฆาผูอื่นโดยเจตนา เปนตน
๓. ความผิดตอรางกาย เชน ความผิดฐานทํารายรางกายผูอื่นจนเปนเหตุใหไดรับ
อันตรายสาหัส เปนตน
๔. ความผิดฐานทําใหแทงลูก
๕. ความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก คนเจ็บปวยหรือคนชรา
ò. ¤‹Òμͺ᷹¼ÙŒàÊÕÂËÒÂ㹤´ÕÍÒÞÒ ไดแก คาตอบแทนดังตอไปนี้ (มาตรา ๑๘)
๑. คาใชจายที่จําเปนในการรักษาพยาบาล
๒. คาฟนฟูสมรรถภาพทางรางกายและจิตใจ