Page 123 - 10_พระราชบญญตตำรวจแหงชาต2547_Neat
P. 123

๑๑๖




              ขาราชการตํารวจชั้นประทวน และดํารงตําแหนงผูบังคับหมูหรือเทียบผูบังคับหมูในสวนราชการนั้น
              ของสํานักงานตํารวจแหงชาติตามพระราชบัญญัตินี้

                          ÁÒμÃÒ ñòò  ตําแหนงผูชวยผูบัญชาการหรือเทียบผูชวยผูบัญชาการในสวนราชการใด
              ของสํานักงานตํารวจแหงชาติที่ไดรับการกําหนดไวตามพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการตํารวจ
              พ.ศ. ๒๕๒๑ ใหเปนตําแหนงรองผูบัญชาการหรือเทียบรองผูบัญชาการในสวนราชการนั้นของสํานักงาน

              ตํารวจแหงชาติตามพระราชบัญญัตินี้
                          ผูใดดํารงตําแหนงผูชวยผูบัญชาการหรือเทียบผูชวยผูบัญชาการในสวนราชการใดของ

              สํานักงานตํารวจแหงชาติอยูในวันกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ใหถือวาผูนั้นเปนผูที่ไดรับแตงตั้ง
              ใหดํารงตําแหนงรองผูบัญชาการหรือเทียบรองผูบัญชาการในสวนราชการนั้นของสํานักงานตํารวจแหงชาติ
              ตามพระราชบัญญัตินี้

                          บรรดาตําแหนงผูชวยผูบัญชาการหรือเทียบผูชวยผูบัญชาการที่ปรับเปนตําแหนง
              รองผูบัญชาการตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให ก.ตร.ดําเนินการใหมีการยุบเลิกใหเหลือจํานวนเทาที่

              จําเปน และใหนําตําแหนงและอัตราเงินเดือนที่ยุบเลิกดังกลาวไปเพิ่มเปนตําแหนงและอัตราเงินเดือน
              ตามมาตรา ๔๔ (๖) ลงมา
                          ÁÒμÃÒ ñòó  ขาราชการตํารวจผูใดมีกรณีกระทําผิดวินัยหรือกรณีที่สมควรใหออกจาก

              ราชการอยูกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ใหผูบังคับบัญชาตามพระราชบัญญัตินี้มีอํานาจสั่งลงโทษ
              ผูนั้นหรือสั่งใหผูนั้นออกจากราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการตํารวจ พ.ศ. ๒๕๒๑

              สวนการสอบสวนการพิจารณาและการดําเนินการเพื่อลงโทษหรือใหออกจากราชการใหดําเนินการ
              ตามพระราชบัญญัตินี้เวนแต
                          (๑)  ในกรณีที่ผูบังคับบัญชาไดสั่งใหสอบสวนโดยถูกตองตามกฎหมายที่ใชบังคับอยู

              ในขณะนั้นไปแลวกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับและยังสอบสวนไมเสร็จก็ใหสอบสวนตาม
              กฎหมายนั้นตอไปจนกวาจะเสร็จ

                          (๒)  ในกรณีที่ไดมีการสอบสวนหรือพิจารณาโดยถูกตองตามกฎหมายที่ใชบังคับอยู
              ในขณะนั้นเสร็จไปแลวกอนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ใหการสอบสวนหรือพิจารณาแลวแตกรณีนั้น
              เปนอันใชได

                          กรณีที่ไดมีการสงเรื่องหรือนําสํานวนสอบสวนเสนอหรือสงใหคณะอนุกรรมการสามัญ

              ประจํากระทรวง หรือ ก.ตร. พิจารณาตามกฎหมายที่ใชบังคับอยูในขณะนั้น และคณะอนุกรรมการ
              สามัญประจํากระทรวง หรือ ก.ตร.พิจารณาเรื่องนั้นยังไมเสร็จ ใหดําเนินการตามพระราชบัญญัตินี้
                          ÁÒμÃÒ ñòô  ผูใดถูกสั่งลงโทษใหออก ปลดออก หรือไลออก หรือถูกสั่งใหออกตาม

              พระราชบัญญัติระเบียบขาราชการตํารวจ พ.ศ.๒๕๒๑ ใหผูนั้นมีสิทธิอุทธรณไดตามมาตรา ๑๐๕
                          ผูใดมีสิทธิรองทุกขตามพระราชบัญญัติระเบียบขาราชการตํารวจ พ.ศ. ๒๕๒๑ และ

              พระราชบัญญัติวาดวยวินัยตํารวจ พ.ศ. ๒๔๗๗ ผูนั้นอาจรองทุกขไดตามมาตรา ๑๐๖
   118   119   120   121   122   123   124   125   126   127   128