Page 243 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 243

๒๓๐




                         ®Õ¡Ò·Õè òðòó - òðóñ/òõò÷  ชักชวนนักศึกษาประชาชนกลาวโจมตีผูวาราชการ
              จังหวัด คนเหลานี้รวมตัวกันหลายพันคนขวางปาเผาจวนผูวาฯ คนเหลานั้นผิด มาตรา ๑๑๖, ๒๑๕

                             ®Õ¡Ò·Õè ôõôø/òõôð  จําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ กับพวกรวม ๖ คน รวมกันวางแผนไปกระทํา
              การปลนทรัพยกับผูเสียหายที่ ๒ อันเปนความผิดตามที่บัญญัติไวในภาค ๒ แหงประมวลกฎหมายอาญา
              จึงมีความผิดฐานเปนซองโจร และเมื่อจําเลยที่ ๔ กับพวกไปปลนรานทองของผูเสียหายที่ ๒ ตามแผนที่

              รวมวางไว จําเลยที่ ๑ ถึงที่ ๓ ผูรวมวางแผนยอมมีความผิดฐานเปนตัวการปลนทองรวมกับจําเลยที่ ๔

              ดวย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๑๓ และความผิดฐานเปนซองโจรกับความผิดฐานปลนทรัพย
              เกี่ยวเนื่องกันเพราะพวกจําเลยกระทําผิดฐานเปนซองโจรเพื่อจะไปปลนทรัพยของผูเสียหายทั้งสอง
              จึงเปนกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ตองลงโทษฐานปลนทรัพยอันเปนบทที่มีโทษหนักที่สุด

                         ®Õ¡Ò·Õè ÷õöò/òõõö  จําเลยทั้งสองกับพวก ๕ คน รวมกันปรึกษาวางแผนลักทรัพย
              ของชาวตางชาติบนรถโดยสารสองแถว โดยขึ้นรถโดยสารสองแถวมาพรอมกันซึ่งจะทําใหมีผูโดยสาร

              มากพอที่จะทําใหพวกของจําเลยที่ ๑ สามารถเขาไปนั่งชิดกับผูเสียหายทางดานขวาที่มีกระเปาสตางค
              ของผูเสียหาย และมีการแบงหนาที่กันทําตามที่จําเลยที่ ๑ กับพวกรวม ๕ คน สมคบกัน จําเลยที่ ๑ จึงมี

              ความผิดฐานรวมกับพวกลักทรัพยในยวดยานสาธารณะและเปนซองโจร ซึ่งความผิดฐานเปนซองโจร
              กับฐานรวมกันลักทรัพยในยวดยานสาธารณะเกี่ยวเนื่องกันจึงเปนกรรมเดียวเปนความผิดตอกฎหมาย

              หลายบท

              ¤ÇÒÁ¼Ô´°Ò¹äÁ‹ÂÍÁàÅÔ¡ÁÑèÇÊØÁàÁ×èÍ਌Ҿ¹Ñ¡§Ò¹ÊÑè§ãËŒàÅÔ¡

                         ÁÒμÃÒ òñö  เมื่อเจาพนักงานสั่งผูที่มั่วสุมเพื่อกระทําความผิดตามมาตรา  ๒๑๕
              ใหเลิกไป ผูใดไมเลิก ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือปรับไมเกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
                         ͧ¤»ÃСͺÀÒ¹͡

                         (๑)  เมื่อเจาพนักงานสั่งผูที่มั่วสุมเพื่อกระทําความผิดมาตรา ๒๑๕ ใหเลิกไป
                         (๒)  ผูกระทําไมเลิก
                         ͧ¤»ÃСͺÀÒÂã¹  เจตนาธรรมดา มูลเหตุชักจูงใจ เพื่อกระทําความผิดมาตรา ๒๑๕

                         ความผิดฐานนี้เปนความผิดตางหากจากความผิดฐานกอความวุนวายตามมาตรา ๒๑๕
              กลาวคือ เมื่อเจาพนักงานสั่งใหผูที่มั่วสุมเพื่อกระทําความผิดมาตรา ๒๑๕ ใหเลิก ผูใดไมเลิกเปน

              เปนความผิด แสดงวามีการมั่วสุมแตยังไมมีการใชกําลังประทุษรายหรือการขูเข็ญเพราะถามีแลว
              ก็เปนความผิดตามมาตรา ๒๑๖ ไปเลย เมื่อเจาพนักงานสั่งผูที่มั่วสุม ถาเลิกก็ไมเปนความผิดตาม
              มาตรา ๒๑๖ นี้ ถาไมยอมเลิก แตยังไมทันไดมีการขูเข็ญหรือใชกําลังประทุษราย ถูกตํารวจจับเสียกอน
              ก็เปนความผิดฐานนี้ได

                         การมั่วสุมนี้ตองมี “มูลเหตุจูงใจ” เพื่อกระทําความผิดมาตรา ๒๑๕ ถาเจาพนักงาน
              สั่งใหเลิกแลวไมเลิก กลับกระทําขูเข็ญหรือประทุษรายตอไปเปนความผิดตามมาตรา ๒๑๕ ไปเลย

              เปนกรรมเดียวไมผิดตามมาตรา ๒๑๖ อีก มาตรานี้ โทษหนักกวามาตรา ๒๑๕ เพราะหามแลวยังขืนทํา
   238   239   240   241   242   243   244   245   246   247   248