Page 263 - 08_กฎหมายอาญา_Neat
P. 263

๒๕๐




                          (๑) ®Õ¡Ò·Õè ñöõ/òõòó  จําเลยจุดไฟเผาตนไมที่โคนไวในสวนของจําเลย จําเลยทํา
              ทางกันไฟไวกวาง ๒ ศอก แตแดดรอนจัดและลมแรงไมพอปองกันไมใหไฟลามไปไหมสวนของผูอื่นได

              เปนประมาท
                          (๒)  ®Õ¡Ò·Õè òðùð/òõòö  แมกอนจะจุดไฟเผาสวนของจําเลย จําเลยไดถากถางตนไม

              เพื่อกันไฟมิใหลุกลามติดสวนของผูอื่น และไฟที่จําเลยจุดมิไดลุกลามไปติดสวนของผูเสียหายในทันที
              ก็ตาม แตการที่จําเลยมิไดใชความระมัดระวังตรวจตราดูและดับไฟที่จุดเผาสวนไวกอนเกิดเหตุ ๓-๔

              วัน ใหหมด ปลอยไวใหติดคุขอนไมจนเปนเหตุใหลุกลามไปไหมทรัพยสินของผูเสียหาย จําเลยยอมได
              ชื่อวาเปนผูทําใหเกิดเพลิงไหมโดยประมาท มีความผิดตามมาตรา ๒๒๕

                          (๓)  ®Õ¡Ò·Õè ñòññ/òõóð  จําเลยที่ ๒ และที่ ๓ รวมกันลักนํ้ามันที่ปมผูเสียหาย
              โดยใชสายไฟตอขั้วแบตเตอรี่กับเครื่องปมดูดนํ้ามันจากถังใตดินมาใสถังในรถยนต เมื่อดูดนํ้ามันได ๔ ถัง

              แลว จําเลยที่ ๒ ดึงสายไฟจากขั้วแบตเตอรี่ใหปมติ๊กหยุดทํางานเพื่อจะเปลี่ยนสายยางไปใสถังที่ ๕
              ทําใหเกิดประกายไฟเปนเหตุใหเพลิงไหม ดังนี้พฤติการณที่จําเลยทั้งสองรวมกันมาลักทรัพยโดยวิธีการ
              เชนนี้ ทําใหเกิดไอระเหยของนํ้ามันกระจายอยูในบริเวณนั้นงายตอการเกิดเพลิงไหม ถือไดวาเปนการ

              กระทําโดยประมาท เพราะแบตเตอรี่เปนเครื่องกําเนิดไฟฟาและนํ้ามันเปนวัตถุที่ติดไฟไดงาย เมื่อเกิด
              เพลิงไหมขึ้นเนื่องจากวิธีการในการลักทรัพยของจําเลยทั้งสอง ซึ่งกระทําดวยความประมาท ตองถือวา

              เปนผลอันเกิดจากการกระทําของจําเลยทุกคนที่รวมกันลักทรัพย ดังนั้น แมจําเลยที่ ๓ จะมิไดเปน
              ผูถอดสายไฟฟาจากขั้วแบตเตอรี่ก็ตองฟงวาจําเลยที่ ๓ รวมกระทําดวย จําเลยที่ ๓ จึงตองมีความผิด

              ฐานทําใหเกิดเพลิงไหมโดยประมาท
                          จากที่อธิบายมาแลว จะเห็นไดวา การทําใหเกิดเพลิงไหมโดยประมาทที่เปนเหตุใหทรัพย

              ของผูอื่นเสียหายตามมาตรานี้ ตางจากความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพยตามมาตรา ๒๑๗ ในแงที่วา
              การกระทําตามมาตรานี้เปนเรื่องกระทําโดยประมาท โดยผูกระทําไมประสงคตอผลหรือไมเล็งเห็นผลวา

              การทําใหเกิดเพลิงไหม จะทําใหทรัพยผูอื่นเสียหาย ในขณะที่ความผิดตามมาตรา ๒๑๗ นั้น
              ตองเปนการกระทําโดยเจตนาเผาทรัพยผูอื่น ดังนั้นการกระทําผิดตามมาตรานี้ จึงไมมีความผิดฐาน

              พยายามเพราะถากระทําไปแลวไมมีทรัพยของผูอื่นเสียหาย หรือไมนาจะเปนอันตรายแกชีวิตของ
              บุคคลอื่น ผูกระทําก็ไมมีความผิด แตความผิดตามมาตรา ๒๑๗ นั้น เพียงตระเตรียมการ ผูกระทํา

              ก็มีความผิดฐานพยายาม และตองรับโทษแลวตามมาตรา ๒๑๙ (เวนแตจะเปนกรณีตามมาตรา ๒๒๓
              ซึ่งตองกระทําถึงขั้นลงมือกระทําความผิดจึงจะเปนความผิด)

                          (๔)  ®Õ¡Ò·Õè óôøõ/òõóõ  จําเลยขับรถแทรกเตอรไถเกรดหญาไปได ๑ รอบครึ่ง
              เครื่องยนตเกิดขัดของและดับลง จําเลยสตารทเครื่องยนตจึงเกิดไฟลุกไหมขึ้นที่เครื่องยนตกอน
              แลวลามไหมตัวรถแทรกเตอรและไหมสวนยางพาราของผูเสียหาย เหตุไฟไหมเครื่องยนตนาจะเปน

              อุบัติเหตุ เพราะปกติธรรมดาแลวการสตารทเครื่องยนตก็เพื่อใหเครื่องยนตติด ไมใชเหตุที่ตองเกิดไฟ
   258   259   260   261   262   263   264   265   266   267   268