Page 111 - EBOOK-TRON_2018
P. 111

ความสำาคัญและความเป็นมา  แผ่นดินไหว, 2557) แผ่นดินไหวครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการเลื่อนตัวทางส่วนเหนือของกลุ่มรอยเลื่อนพะเยาหรือ
          รอยเลื่อนย่อยแม่ลาว ซึ่งมีการเลื่อนตัวในแนวระดับแบบเหลื่อมซ้าย วางตัวในแนวตะวันออกเฉียงเหนือ-ตะวันตก
 การดำาเนินงานที่ผ่านมาของกรมทรัพยากรธรณีทำาให้ทราบแนวรอยเลื่อนมีพลังจำานวนมากในประเทศไทย ส่วนใหญ่   เฉียงใต้ สร้างความเสียหายในรอบรัศมีประมาณ 30 กิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว (กรมทรัพยากรธรณี,

 อยู่ในบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันตก และภาคใต้ เนื่องจากแผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นทุกหนทุกแห่งแบบไม่มีระบบ  2557) นอกจากนี้ ประชาชนในภาคเหนือรวมถึงผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารสูงของกรุงเทพฯ สามารถรับรู้ถึงแรง

 แต่เกิดขึ้นในบริเวณรอยเลื่อนมีพลัง ดังนั้น การทราบแนวรอยเลื่อนมีพลังจึงถือเป็นก้าวสำาคัญของประเทศใน  สั่นสะเทือนในครั้งนี้ด้วย
 การดำาเนินการเพื่อป้องกันและบรรเทาความเสียหาย ที่เกิดจากแผ่นดินไหว เช่น การทำาโซนนิ่งพื้นที่เสี่ยงภัย      การกระจุกตัวทั้งในเชิงตำาแหน่งและเวลาของแผ่นดินไหวใหญ่ทั้ง 3 ครั้งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 7 ปี

 แผ่นดินไหว การออกกฎหมายควบคุมการก่อสร้างอาคารที่เหมาะสมในพื้นที่เสี่ยงภัย และการจัดทำาข้อกำาหนด  ที่ผ่านมา สอดคล้องกับทฤษฎีการนำาพาแรงเค้น (Stress transfer theory) ซึ่งกล่าวไว้ว่า การเกิดแผ่นดินไหวใหญ่

 ทางวิศวกรรมโครงสร้างเพื่อให้สามารถรับแรงจากแผ่นดินไหว เป็นต้น  ในบริเวณรอยเลื่อนหนึ่ง จะทำาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแรงเค้นในบริเวณรอยเลื่อนใกล้เคียง โดยบางบริเวณจะได้

      อย่างไรก็ตามการทราบแนวรอยเลื่อนมีพลังเพียงประการเดียวยังไม่เพียงพอต่อการจัดทำามาตรการหรือ   รับแรงเค้นเพิ่มขึ้น ในขณะที่บริเวณอื่นอาจมีแรงเค้นลดลง บริเวณที่ได้รับแรงเค้นเพิ่มขึ้นมีโอกาสที่จะเกิดแผ่นดิน

 กฎระเบียบต่างๆ ที่จะตามมา เนื่องจากตัวแปรสำาคัญอีกหลายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งขนาดความรุนแรงของ  ไหวเร็วขึ้น เนื่องจากรอยเลื่อนแม่จันอยู่ใกล้กับแผ่นดินไหวใหญ่ทั้ง 3 ครั้งที่ผ่านมา จึงได้รับผลกระทบมากกว่า
 แผ่นดินไหวที่จะเกิดขึ้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แผ่นดินไหวเชียงราย (อ.พาน จ.เชียงราย) ขนาด Mw6.3 ที่เกิด  รอยเลื่อนที่ห่างออกไป ดังนั้น หากบางช่วงของรอยเลื่อนแม่จันมีลักษณะการวางตัวที่อยู่ในแนวที่รับแรงเค้นเพิ่ม

 ขึ้นเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 (กรมทรัพยากรธรณี, 2550) ที่ผ่านมาเป็นตัวอย่างที่ดีของสภาพการณ์ที่เป็นอยู่  ขึ้นจากแผ่นดินไหวครั้งใดครั้งหนึ่งที่ผ่านมา ก็มีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะเกิดแผ่นดินไหวในอนาคตอันใกล้ รอยเลื่อน

 ในปัจจุบันของประเทศไทย แผ่นดินไหวนี้เกิดขึ้นในบริเวณกลุ่มรอยเลื่อนพะเยา ซึ่งอยู่ในบัญชีรอยเลื่อนมีพลัง   แม่จันจึงเป็นรอยเลื่อนมีพลังที่ต้องให้ความสำาคัญในการศึกษาและเฝ้าระวังเป็นพิเศษโดยเร่งด่วน
 ที่กรมทรัพยากรธรณีได้จัดทำาไว้แล้ว ดังนั้น ในทางวิชาการจึงเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่าไม่ช้าก็เร็วจะเกิดแผ่นดินไหว     การหาคาบอุบัติซ้ำาและการประมาณขนาดของแผ่นดินไหวจำาเป็นต้องทราบคุณลักษณะ 2 ตัวของรอยเลื่อน

 ในบริเวณนี้ แต่ขนาดความรุนแรง Mw 6.3 ที่เกิดขึ้นใหญ่เกินความคาดหมายของนักธรณีวิทยา ซึ่งงานศึกษาโดย  ได้แก่ อัตราการเลื่อนไถล (Slip rate หรือ Interseismic slip) และความลึกของการยึดติดกันของรอยเลื่อน (Locking

 ใช้เทคนิคการธรณีวิทยาภาคสนามที่ผ่านมาประมาณค่าความรุนแรงไว้เพียงประมาณ Mw 5 เท่านั้น  depth) คุณลักษณะของรอยเลื่อนทั้ง 2 ตัวนี้ สามารถคำานวณได้จาก Elastic half-space model หากมีจุดตรวจ

      นอกจากขนาดความรุนแรงของแผ่นดินไหวแล้ว ตัวแปรสำาคัญยิ่งอีกตัวหนึ่งเกี่ยวกับพิบัติภัยแผ่นดินไหว  วัดที่เหมาะสมตามแนวแนวตั้งฉากกับแนวรอยเลื่อน (Transect) และทราบความเร็วการเคลื่อนที่ของจุดตรวจวัด

 คือ คาบอุบัติซ้ำา (Recurrence period) คาบอุบัติซ้ำาคือช่วงเวลาเฉลี่ยระหว่างการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่แต่ละครั้ง  เหล่านี้ โดยทั่วไปความเร็วของการเคลื่อนตัวตามแนว Transect ที่อยู่ห่างจากแนวรอยเลื่อนจะเร็วกว่าตำาแหน่งที่
 ในบริเวณรอยเลื่อนเดียวกัน คาบอุบัติซ้ำาอธิบายได้โดยกลศาสตร์ของรอยเลื่อนว่าในบริเวณรอยเลื่อนมีพลัง



 แผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นที่อยู่คนละฝั่งของรอยเลื่อนพยายามเคลื่อนตัวไปในทิศทางตรงกันข้าม แต่ถูกยึดไว้ด้วย

 แรงเสียดทาน จึงเกิดการสะสมแรงเค้นและทำาให้แผ่นดินทั้งสองฝั่งของรอยเลื่อนเกิดการบิดเบี้ยว (Deformation)
 ซึ่งจะค่อยๆ มากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไปและสามารถตรวจวัดได้หากมีเครื่องมือและเทคนิคที่มีความเที่ยงตรงสูง

 พอที่จะวัดความบิดเบี้ยวที่เกิดขึ้นด้วยความเร็วเพียงไม่กี่มิลลิเมตรต่อปี เมื่อเวลาผ่านไปในที่สุดแรงเค้นที่สะสม

 อยู่มากกว่าแรงเสียดทานก็จะเกิดการเลื่อนไถล (Slip) ของแผ่นเปลือกโลก และปลดปล่อยพลังงานที่สะสมออกมา

 ในรูปของแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการที่แผ่นเปลือกโลกยึดติดกันอีกครั้งและเริ่มสะสมแรง  อยู่ใกล้รอยเลื่อน ความเร็วตาม Transect ของจุดตรวจวัดเหล่านี้สามารถหาได้โดยใช้เทคนิคทางการรังวัดที่ให้
 เค้นใหม่เป็นวัฏจักรแผ่นดินไหว (Seismic cycle) เช่นนี้เรื่อยไป (Wright, 2002; Thatcher, 1993) การทราบค่าอุบัติ  ความละเอียดสูง เช่น เทคนิคจีพีเอส อย่างไรก็ตามเทคนิคจีพีเอสมีข้อจำากัดสำาคัญ คือ ตำาแหน่งสถานีตรวจวัด

 ซ้ำามีความสำาคัญยิ่งในด้านการวางแผนจัดการพิบัติภัย เนื่องจากหากทราบว่าแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ครั้งล่าสุดใน  ต้องเข้าถึงได้  มีความมั่นคงปลอดภัยที่ต้องมั่นใจว่าตัวสถานีจะไม่ถูกทำาลายหรือรบกวนให้เกิดการเคลื่อนตัว

 บริเวณรอยเลื่อนนั้นเกิดขึ้นเมื่อนานเท่าไรมาแล้ว (จากหลักฐานทางวิชาการหรือบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่มีอยู่)   ไม่ว่าโดยธรรมชาติหรือมนุษย์ นอกจากนี้แนวรอยเลื่อนแม่จันอยู่ใกล้พรมแดนมาก ทำาให้ตำาแหน่งของจุดตรวจ

 การทราบคาบอุบัติซ้ำาก็จะทำาให้สามารถประมาณเวลาที่จะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งต่อไปได้  วัดทางฝั่งเหนือของรอยเลื่อนเข้าไปอยู่ในประเทศเมียนมาร์และไม่สามารถทำาการรังวัดด้วยเทคนิคจีพีเอส
      รอยเลื่อนแม่จันเป็นแนวรอยเลื่อนมีพลังขนาดใหญ่ทางภาคเหนือของไทยในบริเวณรอยต่อของประเทศไทย   ซึ่งเป็นการรังวัดภาคพื้นดินได้ ดังนั้น เทคนิคอินซาร์ (Interferometric synthetic aperture radar, InSAR) ซึ่งใช้

 เมียนมาร์ และลาว หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของสามเหลี่ยมทองคำา รอยเลื่อนแม่จันพาดผ่านพื้นที่เมืองและชุมชน  การประมวลผลภาพจากดาวเทียมเรดาร์ซึ่งให้ความละเอียดถูกต้องเทียบเคียงได้กับเทคนิคจีพีเอสจึงเข้ามา

 หลายแห่ง และในช่วง 9 ปีที่ผ่านมาได้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ จำานวน 3 ครั้ง ในบริเวณนี้ ได้แก่   ช่วยแก้ปัญหานี้และทำาให้มีความเหมาะสมในการนำามาใช้เพื่อวัดการเคลื่อนตัวทั้งสองฝั่งของรอยเลื่อนแม่จัน

    - แผ่นดินไหวอยู่ทางตอนเหนือของประเทศลาว ขนาด Mw=6.3 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2550 มี  ได้อย่างเหมาะสม
 จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากตัวเมืองเชียงรายไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นระยะทางประมาณ 110      เมื่อได้ความเร็วของตำาแหน่งต่าง ๆ ตามแนว Transect แล้ว ก็จะสามารถประมาณค่าอัตราการเลื่อน

 กิโลเมตร (กรมทรัพยากรธรณี, 2550) และอยู่ในแนวที่สัมพันธ์กับแนวรอยเลื่อนแม่จันในจังหวัดเชียงรายของ  ไถลและความลึกของการยึดติดกันของรอยเลื่อนจาก Elastic half-space modelจากนั้น หากมีข้อมูลส่วนอื่น

 ประเทศไทย ในบริเวณที่คาดว่าน่าจะเป็นปลายทางด้านตะวันออกของรอยเลื่อนแม่จันที่อยู่ในประเทศลาว  เพิ่มเติม ได้แก่ การเคลื่อนตัวขณะการเกิดแผ่นดินไหว (Coseismic slip) และขนาดความยาวของแนวรอยเลื่อน

    - แผ่นดินไหว Tarlay ในเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2554  ขนาด Mw 6.8  ในรอยเลื่อน Nam Ma   ที่เกิดพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งก่อน ๆ (Rupture length) ก็จะสามารถประมาณค่าขนาดของแผ่นดินไหวที่
 ซึ่งเป็นรอยเลื่อนเหลื่อมซ้ายในกลุ่มเดียวกับรอยเลื่อนแม่จัน จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวนี้อยู่ห่างจากรอยเลื่อนแม่จัน  จะเกิดขึ้นและคาบอุบัติซ้ำาของรอยเลื่อนแม่จันในบริเวณพื้นที่ศึกษาได้ตัวแปรทั้งสองนี้จะเป็นข้อมูลทางวิชาการ

 ขึ้นไปทางเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร (McCaughey and Tapponnier, 2011; Tun et al., 2013; Wang et al.,   ที่สำาคัญในการนำาไปสู่การวางแผนและการจัดการเกี่ยวกับการป้องกันความเสียหายจากธรณีพิบัติภัยต่อไป

 2013; Ruangrassamee et al., 2012) ทำาให้พื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยได้รับความเสียหายและรับรู้

 ถึงแรงสั่นสะเทือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีแนวรอยเลื่อนมีพลังพาดผ่านอยู่ก็คือรอยเลื่อนแม่จัน
    - แผ่นดินไหวเชียงราย เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 ขนาด Mw 6.3 เกิดขึ้นในบริเวณรอยเลื่อนพะเยา

 ซึ่งเป็นกลุ่มรอยเลื่อนทางตอนใต้ของรอยเลื่อนแม่จัน ที่ความลึกประมาณ 7 กิโลเมตรจากผิวดิน (สำานักเฝ้าระวัง




 มหกรรมง�นวิจัยแห่งช�ติ 2561  |  110                                                                                                          111  |  Thailand Research Expo 2018
   106   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116