Page 75 - EBOOK-TRON_2018
P. 75
ความสำาคัญและความเป็นมา
วัสดุตีเส้นจราจรที่ใช้กันในปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ สีจราจรชนิดเหลวที่ละลายในตัวทำาละลาย และวัสดุเทอร์โม
๐
พลาสติกซึ่งเป็นของแข็ง ใช้งานโดยการหลอมด้วยความร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 220 C แล้วนำาไปเคลือบบน
ผิวทาง สำาหรับประเทศไทยนิยมใช้วัสดุเทอร์โมพลาสติกในการตีเส้นจราจรมากว่าสีจราจร เนื่องจากใช้งานง่าย
สะดวกและมีประสิทธิภาพสูงกว่า จุดด้อยของวัสดุเทอร์โมพลาสติก คือ มีค่าอุณหภูมิคล้ายแก้วสูง จึงมีความ
ยืดหยุ่นต่ำา มีความสามารถในการยึดเกาะต่ำาและไม่ทนต่อการสึกหรอ การนำายางธรรมชาติแทนที่เรซินโดยการ
เตรียมให้อยู่ในรูปพอลิเมอร์เบลนด์เพื่อใช้เป็นสารยึดเกาะสำาเตรียมเป็นวัสดุเทอร์โมพลาสติกสำาหรับ
ทาเครื่องหมายบนผิวทาง จะทำาให้วัสดุที่เตรียมได้มีจุดเด่นทนต่อแรงกระแทก มีความสามารถในการยึดเกาะ
กับพื้นผิวและความทนต่อการสึกหรอที่ดีเยี่ยม อีกทั้งการเมื่อในไปหลอมเพื่อใช้ตีเส้นจราจรก็สามารถทำาได้ง่าย
และสะดวกไม่แตกต่างจากการใช้วัสดุเทอร์โมพลาสติกทางค้าที่ใช้กันในปัจจุบัน
วัตถุประสงค์
นำาวัสดุเทอร์โมพลาสติกที่เตรียมได้จากการทดลองไปแปรรูปและจำาหน่ายจริงเหมือนกับวัสดุทางการค้าก็มี
ความเป็นไปได้สูงและมีความน่าสนใจมาก เพราะจะเป็นการเพิ่มช่องทางใหม่ในการนำายางธรรมชาติไปแปรรูป
เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ช่วยเพิ่มช่องทางในการนำายางธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบที่มีมากไหนประเทศไปใช้เพิ่มขึ้น
จุดเด่น การนำาผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์
หากทุกเส้นทางในประเทศใช้วัสดุนี้ในการตีเส้นจราจร ผลงานวิจัย การแปรรูปวัสดุเทอร์โมพลาสติก
จะทำาให้วัตถุดิบยางธรรมชาติภายในประเทศถูกใช้งาน สำาหรับทาเครื่องหมายบนผิวทาง ใช้ในการตีเส้น
ประมาณ 4 พันตัน/ปี ซึ่งผลที่คาดว่าอาจจะตามมาคือ จราจร ซึ่งมีความทนต่อแรงกระแทก มีความ
ทำาให้ราคายางมีโอกาสที่จะสูงขึ้น และจะทำาให้จำานวน สามารถในการยึดเกาะกับพื้นผิวและความทนต่อ
เกษตรกรมีรายได้จากการจำาหน่ายยางธรรมชาติมากขึ้น การสึกหรอที่ดีเยี่ยม
นอกจากนี้จะทำาให้ลดการนำาเข้าวัตถุดิบเรซินที่ใช้ในการ
แปรรูปวัสดุเทอร์โมพลาสติกสำาหรับทาเครื่องหมายบน
ผิวทาง จากประเทศจีน เกือบ 4 พันตัน/ปี ได้เช่นกัน
มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2561 | 74