Page 17 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 17
เรื่องเหตุให้เกิดทุกข์ ข้อปฏิบัติถึงความดับทุกข์ และทุกข์ดับสิ้นแล้ว เป็นอย่างไร เวลาทุกข์ดับไปแล้วนั้นเป็นอย่างไร หรือขณะที่ทุกข์มี ทุกข์ นั้นมีหน้าตาอย่างไร
พวกเราทั้งหลายที่มีความปรารถนาที่จะแสวงหาธรรม ส่วนใหญ่ เป็นที่เข้าใจกันอยู่แล้วว่า ชีวิตนี้เมื่อเกิดขึ้นมาแล้วก็เป็นที่อาศัยของกอง ทุกข์มากมาย เป็นเหตุให้เกิดทุกข์มากมาย ไม่ว่าจะอาศัยอารมณ์ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจก็ตาม ที่เข้ามากระทบ เมื่อไหร่ก็ตามที่ขาดสติขาด ปัญญาในการพิจารณา ก็เกิดความหลง ความเข้าใจผิดเข้าไปยึดเอา แล้ว ก็ทาให้เรามีความทุกข์เกิดขึ้น เพราะฉะนั้น ที่เราปฏิบัติธรรมเพื่ออะไร ? เพอื่ รคู้ วามจรงิ ความจรงิ ทเี่ ปน็ สจั ธรรม ความจรงิ ขอ้ ไหน ? ความจรงิ ของ อะไร ?
อยา่ งทบี่ อกแลว้ วา่ ความจรงิ ทพี่ ระพทุ ธเจา้ ไดต้ รสั รู้ ทนี่ า มาแสดง ให้เราได้ฟังกัน ความจริงสาคัญข้อที่หนึ่งก็คือเรื่องของรูปนาม เรื่องของ กายใจ เรื่องของรูปนามกายใจของเรานั้นที่จริงแล้วเป็นอย่างไร ? ทา อย่างไรเราจึงจะเห็นความจริงตรงนั้นได้ ? ก็คือการเห็นชัดถึงความเป็น คนละส่วนของรูปกับนาม กายกับใจ เพราะฉะนั้น ในการปฏิบัติธรรม ความจริงข้อนี้เป็นเบื้องต้นที่เราพึงพิจารณา ให้เห็นว่ารูปกับนาม กาย กับใจ เขาต่างกันอย่างไร ทาไมถึงต่างกัน ทั้ง ๆ ที่รูปนามนี้ โดยส่วนใหญ่ ก็คิดว่าเป็นเราเป็นเราตลอด ตั้งแต่เกิดจนโตจนถึงปัจจุบัน ไม่มีใครบอก เลยว่ารูปนามอันนี้เป็นของคนอื่นหรือเป็นของใคร มีแต่เป็นเรา เป็นเรา ตลอดเวลา
เพราะอะไรเปน็ ตวั ปดิ บงั จงึ รสู้ กึ วา่ เปน็ เรา ? เพราะวา่ การรบั รเู้ รอื่ ง ราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น เราจะรับรู้แต่เรื่องสมมติสัจจะ ไม่ใช่ปรมัตถสัจจะ
13
