Page 272 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 272

268
ความเปน็ อนจิ จงั -ทกุ ขงั -อนตั ตาไหม นพี่ ดู ถงึ สภาวธรรมลว้ น ๆ สภาวธรรม ลว้ น ๆ ในทนี่ หี้ มายถงึ ทกุ ๆ อารมณเ์ ลย อาการทางกาย อาการของเวทนา อาการของสัญญา สังขาร วิญญาณ... มีการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป เป็น สภาวธรรมทั้งหมด ไม่ได้บอกว่าเป็นใครเป็นของใคร
แต่ทีนี้เมื่อพิจารณาถึงความทุกข์อีกอย่างหนึ่ง ทุกข์ทางกายหรือ เวทนาทางกายที่เกิดขึ้น แต่ละคนก็มีเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันที่ทาให้ทาง กายมีทุกขเวทนาเกิดขึ้น อย่างที่บอกแล้วว่า การที่มีสติกาหนดรู้พิจารณา ถึงความเป็นคนละส่วน ว่าจิตที่ทาหน้าที่รู้กับเวทนาเป็นคนละส่วนกัน จะ ไดช้ ดั ถงึ วา่ ทา ไมพระพทุ ธเจา้ ถงึ ตรสั วา่ รา่ งกายนเี้ ปน็ รงั แหง่ โรค เพราะเปน็ ที่ประชุมของโรคต่าง ๆ มากมาย เมื่อสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นก็ย่อมทาให้ กายนี้มีเวทนาเกิดขึ้น แต่ถ้าเวทนาทางกายปรากฏขึ้นมาแล้ว มีสติ สมาธิ และปญั ญาพจิ ารณาถงึ ความเปน็ คนละสว่ น จติ ไมเ่ ขา้ ไปยดึ เวทนานนั้ เปน็ ตัวเราของเรา ถึงเวทนาจะแก่กล้าแค่ไหนก็ตาม จิตจะมีความสงบ
เมื่อจิตมีความสงบ เวทนาที่แก่กล้าที่ปรากฏขึ้นมาทางกายนั้นไม่ สามารถทาให้คนเราลงไปสู่อบายได้ เป็นแค่เพียงเวทนาธรรมดาตามปกติ ที่เป็นไปตามเหตุปัจจัยของการเวียนว่ายตายเกิดในภพภูมิต่าง ๆ รูปนาม ขนั ธห์ า้ ยอ่ มทา หนา้ ทขี่ องตนอยเู่ สมอ เวทนาขนั ธก์ ท็ า หนา้ ทขี่ องตนไปเมอื่ มี เ ห ต ปุ จั จ ยั พ ร อ้ ม ส ญั ญ า ข นั ธ ก์ ท็ า ห น า้ ท ขี ่ อ ง ต น ไ ป เ ม อื ่ ม เี ห ต ปุ จั จ ยั เ ก ดิ ข นึ ้ ม า สังขารขันธ์ก็ทาหน้าที่ของตนอยู่เสมอเมื่อมีเหตุปัจจัยพร้อม ตรงนี้แหละ ถึงบอกว่าการปฏิบัติธรรมเป็นการพัฒนาสติ สมาธิ ปัญญาให้เข้าใจถึง สจั ธรรมทกี่ า ลงั เปน็ อยู่ การปรงุ แตง่ จะเปน็ การปรงุ แตง่ ไปในทางทเี่ ปน็ กศุ ล หรอื ไปในทางทดี่ ี ทา จติ ของตนใหด้ ยี งิ่ ขนึ้ คดิ พจิ ารณาหาทางทจี่ ะออกจาก ทกุ ข์ ไมท่ า ในสงิ่ ทสี่ ง่ ผลใหเ้ กดิ ความทกุ ขใ์ นภายหลงั นนั่ กค็ อื การใชป้ ญั ญา


































































































   270   271   272   273   274