Page 275 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 275

สมเดจ็ พระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ นนั้ เปน็ สงิ่ ทงี่ ดงาม เปน็ สงิ่ ทปี่ ระเสรฐิ เปน็ สงิ่ ทคี่ วรนอ้ มเขา้ มาใสใ่ จ ควรนอ้ มเขา้ มาใสต่ วั ทา ใหเ้ กดิ ใหม้ ขี นึ้ ในจติ ใจของ เรา เพื่อที่จะไม่ทุกข์ เพราะถ้าเราไม่ทุกข์ เราก็จะมีการปฏิบัติตนที่เอื้อ ประโยชน์และเกื้อกูลแก่สังคมอีกมากมาย เมื่อมีความสุข ก็ส่งต่อความ สขุ สง่ ตอ่ ความดใี หแ้ กผ่ อู้ นื่ มเี มตตาปรารถนาใหผ้ อู้ นื่ มคี วามสขุ ไดส้ มั ผสั ถึงรสแห่งธรรม ธรรมะที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเอาไว้มีค่ามหาศาลกับโลก เพราะฉะนั้น เราควรน้อมเข้ามาใส่ใจ ทาให้เกิดให้มีขึ้นกับตนเอง
เดี๋ยวต่อไปอาจารย์จะไม่ใช้เสียง ให้เราปฏิบัติสักระยะหนึ่ง แล้ว เราค่อยแผ่เมตตากันเป็นลาดับถัดไป ใช้เวลาประมาณสิบนาที ขอให้เรา ตั้งใจกัน พิจารณาตามสภาวธรรมของตนของตน อาจารย์พูดไปเป็น เบอื้ งตน้ แตส่ า หรบั โยคที มี่ าปฏบิ ตั ธิ รรมอยู่ ณ สถานทแี่ หง่ นี้ กใ็ หพ้ จิ ารณา สภาวะของตนไป เราพิจารณาในกฎไตรลักษณ์แบบเดียวกัน ไม่ว่าจะ เป็นการดูสภาพจิต สภาวธรรมที่ปรากฏขึ้นมา จะเป็นความสว่าง ความ สงบ ความใส อาการไหว อาการเกดิ ดบั ทปี่ รากฏอยเู่ ฉพาะหนา้ ขอใหม้ สี ติ ตามกาหนดรู้เกาะติดไปจนกว่าอาการเกิดดับนั้นจะสิ้นสุดลง
ใหต้ ามรจู้ นอาการเกดิ ดบั นนั้ สนิ้ สดุ ลงทกุ ครงั้ ทตี่ ามกา หนดรอู้ าการ พระไตรลักษณ์หรืออาการเกิดดับของอารมณ์ต่าง ๆ นั่นคือแนวทางการ ปฏิบัติของการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อที่จะทาให้ปัญญาเราแยบคาย ขึ้น และเราจะต้องไม่ลืมว่าการพิจารณาอาการเกิดดับ ให้สังเกตทั้งสอง สว่ น คอื อาการเกดิ ดบั ของรปู และอาการเกดิ ดบั ของนามหรอื จติ ทที่ า หนา้ ที่ ตามกา หนดรอู้ ารมณน์ นั้ ๆ วา่ มกี ารเกดิ ดบั ไปดว้ ยไหม เกดิ ดบั ในลกั ษณะ อย่างไร ขอให้ตั้งใจกัน... ... สมควรแก่เวลา ต่อไปเราจะแผ่เมตตากัน ค่อย ๆ คลายจากกรรมฐาน
271


































































































   273   274   275   276   277