Page 86 - พระอาจารย์เทศน์เนื่องในโอกาสวันสำคัญทางพุทธศาสนา
P. 86

82
แต่การย้อนกลับมาพิจารณาถึงการเกิดดับของรูปขันธ์ที่กาลัง ปรากฏ ณ ปัจจุบัน อาการของกายที่ปรากฏเกิดขึ้น อาการของลมหายใจ อาการของพองยุบ อาการเต้นของหัวใจ อาการกระเพื่อมไหวต่าง ๆ ที่เกิด ขึ้น นั่นคือมารู้อาการพระไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยงของรูปของกาย ว่า รูปนี้ที่บอกว่าเป็นตัวเราของเรา ที่บอกว่าเป็นของเที่ยง จริง ๆ แล้วยังมี การเปลี่ยนแปลงการเกิดดับอยู่ตลอดเวลา นั่นคือการแสดงอาการ พระไตรลักษณ์อยู่เนือง ๆ มีการเกิดดับเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้น อยู่กับปัญญาของแต่ละคนว่าใครจะมีปัญญาแยบคายละเอียดแค่ไหนที่ จะเข้าไปเห็นถึงความเป็นไป ถึงการเกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไปของรูปนามอันนี้ ตรงนี้ที่เรียกว่าปัญญา หรือที่เรียกว่าญาณ
ญาน คือ ปัญญา การพิจารณาเห็นถึงความเป็นไปของรูปนามว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดดับอย่างไร ตรงนี้แหละที่จะทาให้จิตใจเราผ่องใส สะอาด ที่บอกว่าการชาระจิตของตนให้ขาวรอบ จะชาระจิตของตนให้ขาว รอบอย่างไรถ้าไม่เห็นความเป็นจริงถึงความเป็นอนิจจัง-ทุกขัง-อนัตตา ? “อนัตตา” นอกจากว่าไม่มีเรา ไม่ใช่ของเราแล้ว รูปนามอันนี้ยังมีความ เปลยี่ นแปลงทบี่ งั คบั บญั ชาไมไ่ ด้ เกดิ ขนึ้ แลว้ ดบั ไป มแี ลว้ หายไป เมอื่ ไหร่ ใครกต็ ามทเี่ หน็ การเปลยี่ นแปลง เหน็ การเกดิ ขนึ้ -ตงั้ อย-ู่ ดบั ไปของรปู นาม จิตก็จะคลายจากอุปาทานไปเรื่อย ๆ จากที่เคยยึด เคยหนัก เคยแน่น มี น้าหนัก ก็จะค่อย ๆ คลาย ค่อยบาง ค่อยเบา ค่อยจางไป จริง ๆ จิตเริ่ม คลายตงั้ แตเ่ หน็ ถงึ ความเปน็ คนละสว่ นของรปู นาม เหน็ รปู นามเปน็ คนละ ส่วนกันแล้วเห็นว่าไม่ใช่ตัวเราไม่ใช่ของเรานั่นแหละ จิตก็คลายจาก อุปาทาน ดับความรู้สึกว่าเป็นเรา
คลายอุปาทานเพราะอะไร ? เพราะมีปัญญาเกิดขึ้น ได้เห็นแล้ว


































































































   84   85   86   87   88