Page 12 - นิติวิทยาศาสตร์
P. 12

๕



                 õ. ¡ÒþÔÊÙ¨¹ËÅÑ¡°Ò¹ (Criminalities)

                             คําวา Criminalities เปนศัพทที่ไมแพรหลายมากนักในประเทศไทย จะมีผูคุนเคยและ

                 ใชอยูก็ในเฉพาะแวดวงจํากัด ตรงขามกันกับ Forensic Science (นิติวิทยาศาสตร) ซึ่งดูจะแพรหลาย
                 และเปนที่คุนเคยมากในหลายวงการ เชน ตํารวจ ทนายความ อัยการ และศาล เปนตน ตามคําอธิบาย

                 ของสมาคมนักพิสูจนหลักฐานแหงรัฐแคลิฟอรเนีย (California Association of Criminalizes)
                 ซึ่งไดใหไวเมื่อวันที่ ๒๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๖ มีวา “Criminalities is that profession and

                 scientific discipline to the recognition, identification and evaluation of physical evidence
                 by application of the natural sciences to law-science matter” หากถอดความหมายของคําวา

                 Criminalisties นี้ออกมาอยางคราว ๆ จะไดวาการพิสูจนหลักฐานเปนกฎเกณฑทั้งทางวิชาชีพ
                 และทางวิทยาศาสตร ซึ่งมุงในการใหการรับรอง การชี้เฉพาะ การจําแนกและการตีความหมายของพยานวัตถุ

                 โดยนําวิทยาศาสตรธรรมชาติมาประยุกตใชในกรณีที่เกี่ยวของ ระหวางกฎหมายกับวิทยาศาสตร
                             คําจํากัดความนี้หากจะขยายใหชัดเจนอาจกลาวไดวาเปนศาสตรแขนงหนึ่งซึ่งอาศัย

                 กฎเกณฑ ทฤษฎีตาง ๆ ของวิทยาศาสตรหลายสาขา เชน เคมี ฟสิกส ชีววิทยา มารวมกันภายใต

                 กําหนดกฎเกณฑแหงกฎหมาย เพื่อบรรลุจุดประสงคสําคัญคือ การพิสูจนการกระทําผิด หรือ
                 ความบริสุทธิ์ ของผูถูกกลาวหา
                             คุณสมบัติที่ทําใหวิชา Criminalities เปนที่ยอมรับวาเปนวิชาการอิสระสาขาหนึ่ง

                 เชนเดียวกับสาขาวิชาอื่น ๆ ก็คือ มีสายใยซึ่งเชื่อมโยงกับหลักเกณฑทฤษฎีตาง ๆ เขาดวยกัน

                 เปนกลุมกอน หลักทฤษฎีที่วานี้มีหัวใจสําคัญอยูที่
                             ๑.  การจําแนก  (INDIVIDUALIZATION)  เปนการแสดงเห็นความแตกตาง

                 การจัดวัตถุ จัดประเภท เชน กรณีรถหายแจงความกับตํารวจ เมื่อตํารวจพบรถ ผูเสียหายตอง
                 สอบถามกอนวา เปนรถชนิดอะไร สีไหน ยี่หออะไร นั้นคือการจําแนกกอนที่จะมาถึงขั้นตอนชี้เฉพาะ

                 (Identification)
                             ๒.  การชี้เฉพาะ (IDENTIFICATION) ทางดานวิชาปรัชญาไดใหคําอธิบายของ Identity

                 ไววา คือ ความหายาก หรือสิ่งที่มีเพียงหนึ่งเทานั้น ไมสามารถนําสิ่งอื่นมาทดแทนได ฉะนั้น
                 ของสองสิ่งก็จะไมเปน Identical กันไดนอกจากตัวของมันเอง และ Criminalities ไดเขามามีบทบาท

                 ก็เพราะความหมายนี้ Identification ก็เปนกรรมวิธีที่จะจัดใหสิ่งของที่มีตัวตนสิ่งหนึ่ง ใหไปรวมอยู
                 ในประเภทหรือจําพวกที่ไดกําหนดขอบเขต  หรือคุณลักษณะตายตัวเอาไว  เชน  Fingerprint

                 Identification ไดแก การตรวจสอบลายนิ้วมือตองสงสัยวาจะเกิดจากลายนิ้วมือของบุคคลที่ตองสงสัย
                 หรือไม โดยอาศัยหลักกําหนดตายตัวไวแลวในเรื่องจํานวน และชนิดของลักษณะสําคัญพิเศษตาง ๆ

                 ของลายเสนนิ้วมือ เปนตน Identification ตองอาศัยคุณลักษณะ ๒ ประการ
                                 ๒.๑  คุณลักษณะโดยทั่วไป (Class Characteristics) คือ ลักษณะที่ปรากฏ

                 เหมือนกัน โดยทั่วไปตามปกติ เชน เมื่อคนรายลงมือกออาชญากรรมในสถานที่ใด ยอมมีการทิ้งรองรอย
   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16   17