Page 18 - เฌองดอยver-2
P. 18
17
INTERVIEW
ประธานนักเรียนชาย - นายธรรศธาดา ตันชัยสวัสดิ์ (ปุ่น)
? คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับประโยคที่ครูบางคนในสังคมไทยกล่าวว่า “ถ้าหากรับกฎของ
ที่นี้ไม่ได้ ก็ไปเรียนที่อื่นสิ
Ans. ในความเห็นของเราคือทุกกฎที่อาจารย์หรือครูแต่ละท่านในโรงเรียนนั้นๆสร้างขึ้นมา
คงมีเหตุผลในตัวของมันไม่ว่ามันจะเข้าใจได้หรือเข้าใจไม่ได้ก็ตาม แต่ทุกคนไม่ว่าจะนักเรียน
หรืออาจารย์ล้วนมีสิทธิเท่ากันในการช่วยออกกฎของโรงเรียนให้มาเจอกันตรงกลาง มี
กฎเพื่อรักษาความเป็นระเบียบและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบ แต่กฎบางกฎถ้ามันละเมิด
สิทธิของนักเรียนหรือบุคลากรบางท่านในโรงเรียนมากเกินไปกฎข้อนั้นก็ไม่เรียกว่ามาจาก
ประชาธิปไตยเพราะไปละเมิดสิทธิของผู้อื่นอยู่ดี ยกตัวอย่างจากเหตุการณ์ปัจจุบันคือเรื่อง
“ทรงผม” ของนักเรียนทั้งชายและหญิง ถ้าหากวิเคราะห์แล้วส่วนตัวเราเชื่อว่าทรงผมไม่
ส่งผลต่อผลการเรียนหรือวินัยใดๆเลย การที่คุณครูบางท่านกระทำาต่อนักเรียนในเชิงละเมิด
สิทธิก็คือตัดผมนักเรียนโดยพลการ ซึ่งนักเรียนไม่ยินยอมจะให้ทำาและนักเรียนอ้างสิทธิใน
ร่างกายของตัวเองได้ คุณครูเหล่านั้นควรจะออกมารับผิดชอบและปรับปรุงพฤติกรรมของตัว
เอง รวมไปถึงสถาบันศึกษานั้นควรยกเลิกกฎนี้หรือเพิ่มบทลงโทษและมาตรการณ์ตรวจสอบ
การทำางานของคุณครูทุกท่าน ส่วนตัวเราถ้าอยากจะเปลี่ยนแปลงวิธีการสร้างกฎของโรงเรียนทั่ว
ประเทศก็คงอยากจะให้ทุกๆโรงเรียนนำาตัวแทนนักเรียนของแต่ละระดับชั้นและตัวแทนอาจารย์
หรือคุณครูมาร่วมคุยกันเรื่องกฎระเบียบของโรงเรียนว่าข้อไหนควรมีไว้ข้อไหนที่มันไม่มีเหตุผล
ก็ควรยกเลิกไป ถ้าหากทั้งฝ่ายนักเรียนและคุณครูมาเจอกันตรงกลางเราเชื่อว่าทุกคนจะแฮปปี้
และอยู่ร่วมกันในโรงเรียนได้อย่างมีความสุขแล้วแทบไม่ต้องมีการหักคะแนนไม่ต้องมีสารวัตร
นักเรียนไม่ต้องกังวลสอดส่องคนที่ทำาผิดเลย ดังนั้นเลิกพูดเถอะครับคำาว่า “ถ้าหากรับกฎของที่นี่
ไม่ได้ ก็ไปเรียนที่อื่นสิ” แต่เปลี่ยนเป็น “ไหนๆเรามาช่วยกันปรับแก้กฎละกัน เอาที่นักเรียนทุก
คนสบายใจไม่ละเมิดสิทธิแล้วโรงเรียนของเราน่าอยู่ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ ดีมั้ยคะ/ครับ”