Page 74 - report-06-final-ลายนำ_Neat
P. 74

้
                                                                                                ่
               หนา ๖๔                                                                      ส่วนที ๔




                            ื
                            ่
                                                                                      ํ
                       (๒) เมอพิจารณาจากความเห็นทางวิชาการของผเชียวชาญและคาแนะนําของ
                                                                         ่
                                                                      ้
                                                                      ู
                            ี
                            ่
                          ่
                                                                      ั
                                                                  ้
               หน่วยงานทีเกยวของเกียวกบการตรวจวินิจฉัยการติดเชือไวรสโคโรนา ๒๐๑๙ ด้วยวิธี Real-
                                ้
                                    ่
                                        ั
                                                                          ้
                                                ่
                              ่
                                 ็
               time RT-PCR ซึงเปนวิธีมาตรฐานทีใช้ในการตรวจวินิจฉัยหาเชือ (Gold Standard) ตามที    ่
                             ั
                   ์
                                      ํ
                                                              ้
               องคการอนามยโลกให้คาแนะนํา ส่วนการตรวจดวยวิธี Antibody Testing เป็นการตรวจ
                                                          ้
                                      ่
                                           ้
               วินิจฉัยโรคเสรมอีกวิธีหนึงเท่านัน จึงเห็นควรใหนําชุดตรวจแอนติบอดีด้วยวิธี Rapid Test มา
                            ิ
                              ิ
                                                                                 ิ
                                                    ั
                                                                                             ํ
                                        ่
                                              ่
               ใช้ในการตรวจวนิจฉัยโรครวม เพือยนยนผลการวินิจฉัยการติดเชือให้เกดความแมนยาและ
                                                 ื
                                                                           ้
                                                                                          ่
                            ุ
               สามารถควบคมปองกนการแพรระบาดของโรคได้อยางมประสิทธิภาพตอไป
                               ้
                                  ั
                                                             ่
                                                                ี
                                                                             ่
                                           ่
                                                              ่
                                                                                                 ํ
                                         ่
                                                                        ่
                                                                 ่
                                                         ่
                                                                                               ้
                                                                          ่
                                                                     ้
                       (๓) ในสถานการณ์ทีมีการตรวจคนหมูมากทีอยูในพืนทีเสียง แต่มีอัตราการติดเชือต่า
                                                              ้
                                                                                             ี
               (Low Prevalence) แมการตรวจวนิจฉัยการติดเชือด้วยวิธี Real-time RT-PCR จะมความ
                                     ้
                                               ิ
                                       ็
               แมนยาและไดมาตรฐานเปนทียอมรบ แต่เปนวิธีทีมคาใช้จ่ายคอนขางสูง และใช้ระยะเวลานาน
                                               ั
                                                                          ้
                                          ่
                  ่
                                                                      ่
                     ํ
                                                           ่
                                                            ี
                                                              ่
                                                      ็
                            ้
                       ้
                                                           ํ
               กว่าจะรูผลการตรวจ จึงเห็นควรให้ใช้วิธีการน้าลายแบบรวมตัวอย่าง (Pooled Sample)
               กล่าวคอ เปนการตรวจตัวอยางน้าลาย ๕ ราย ต่อ ๑ กลุม และหากปรากฏว่ากลุมนันพบ
                                                                    ่
                      ื
                                                                                              ้
                           ็
                                          ่
                                              ํ
                                                                                           ่
                                                                                              ่
                                                                ่
               ผลตรวจการติดเชือ จึงจะแยกการตรวจแต่ละราย เพือตรวจยนยนวินิจฉัยโรคต่อไป เพือลด
                                ้
                                                                          ั
                                                                        ื
               คาใช้จ่ายลงได้
                 ่

                                                          ่
                               ุ
                                             ่
                       การประชมครงที่ ๔๒ เมือวันพฤหัสบดีที ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
                                   ้
                                   ั
                                                      ั
                                                ั
                        ิ
                                                              ิ
                       พจารณาศกษาการบรหารจดการวคซีนโควดของประเทศไทยทังระบบ
                                ึ
                                           ิ
                                                                               ้
                                                      ่
                                                                         ้
                                                                              ั
                            ่
                       สืบเนืองจากสถานการณ์การแพรระบาดของโรคติดเชือไวรสโคโรนา ๒๐๑๙ ของ
                                                                ้
                                                                      ้
                               ั
               ประเทศไทยในปจจุบนได้ขยายวงกว้างและพบผติดเชือเพิมขึนอยางต่อเนือง หากหน่วยงาน
                                                           ้
                                                           ู
                                                                                  ่
                                                                    ่
                                   ั
                                                                           ่
                   ี
                       ้
               ทีเกยวของมการบรหารจัดการวัคซีนโควิดอยางเปนระบบหย่อมส่งผลให้การป้องกันและ
                                                              ็
                           ี
                                                          ่
                 ่
                   ่
                                  ิ
               การรกษาโรคติดเชือไวรสโคโรนา ๒๐๑๙ เปนไปอยางมประสิทธิภาพ ซึงคณะกรรมาธิการ
                                      ั
                                                               ่
                                                        ็
                                                                   ี
                                                                                 ่
                    ั
                                 ้
                                                                                        ั
                                                                                          ้
                                               ั
               ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสําคญในประเด็นดังกล่าว  ดังนัน ในการประชุมครงนีจึงได้เชิญ
                                                                       ้
                                                                                        ้
                                     ้
                             ั
                                                                                ู
                                  ่
                                ่
                                  ี
                                                        ้
               หน่วยงานภาครฐทีเกยวของ นักวิชาการ และผูแทนภาคเอกชน มาให้ข้อมล
                       ขอคดเหนและขอเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ
                                     ้
                           ิ
                        ้
                              ็
                                                                                             ่
                                         ั
                                                                               ้
                                                                               ู
                                           ่
                                                                                  ่
                                                 ้
                       (๑) หน่วยงานภาครฐทีเกยวของ ควรประชาสัมพันธ์ให้ความรแกประชาชนเกียวกบ
                                              ี
                                                                                                 ั
                                              ่
                                                                               ้
                                                                                        ็
                                                                                                ้
                                                                                  ้
                                                                                     ่
                                                     ้
                                                   ิ
                                         ี
                                    ้
                               ้
                                             ่
               สรรพคณ  รวมทังผลขางเคยงทีอาจเกดขึนจากการฉีดวัคซีนโควิด  ทังนี เพือเปนการสราง
                      ุ
                     ้
                                                                          ้
                                              ้
                                                       ่
                                                          ั
                                                                                            ุ
                                                               ั
                                                                               ิ
                                  ่
                                                          ่
                     ู
               ความร ความเข้าใจทีถูกต้องและสรางความเชือมนให้กบประชาชนผูรบบรการสาธารณสข
                                                                           ั
                                           ่
                       (๒) หน่วยงานภาครัฐทีเกียวข้อง ควรเปิดโอกาสให้ผูประกอบการนําเขาวัคซีนโควิด
                                                                      ้
                                                                                       ้
                                              ่
                                                                                         ่
                                   ี
                                                                              ิ
                                                                ่
                                                                ื
                   ี
                 ่
               ซึงมความพรอมและมมาตรฐานในระดับสากลสามารถยนข้อเสนอให้บรการวัคซีนแกหน่วยงาน
                           ้
                                                                                     ้
                     ั
                                                                                         ่
                         ่
                                             ็
                                         ่
                                     ั
                                                                 ิ
               ภาครฐอยางเท่าเทียมกน เพือเปนการเปิดโอกาสให้เกดการแขงขันทางการคาอยางเสรและ
                                                                        ่
                                                                                              ี
                                  ํ
                                                 ์
               เปนธรรม  ทังนี โดยคานึงถึงประโยชนของทางราชการและประชาชนผู้รับบริการสาธารณสุข
                             ้
                  ็
                           ้
                                                                     ่
                                                               ี
                                ิ
                       (๓) ควรเปดโอกาสให้สถานพยาบาลเอกชน มส่วนรวมในการให้บรการฉีดวัคซีนโควิด
                                                                                  ิ
                    ่
                                   ็
                                                                      ั
               ให้แกประชาชนเพือเปนการลดภาระงานของสถานพยาบาลรฐและงบประมาณคาใช้จ่ายด้าน
                                                                                       ่
                                ่
               สาธารณสุขของประเทศ โดยหน่วยงานภาครฐทีเกยวของควรกําหนดขนตอนกระบวนการใน
                                                             ่
                                                          ่
                                                                ้
                                                             ี
                                                                               ้
                                                                               ั
                                                        ั
   69   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79