Page 192 - วิชาการการเขียนเพื่องานประชาสัมพันธ์
P. 192

180

         บทความเพื่อการประชาสัมพันธ์เรื่องโรค "ออทิสติก" ประเภทให้ค าแนะน า

         ออทิสติก (Autistic) หรือออทิสซึม (Autism) เป็นค าภาษาอังกฤษที่มีรากศัพท์มาจาก

         ภาษากรีก แปลว่า "ตัวเอง" ออทิสติก (Autistic) เราใช้ค านี้เรียกคนที่มีลักษณะ

         ผิดปกติจากคนทั่วไป คือ ชอบแยกตัวเอง อยู่กับตัวเอง ไม่พูด หรือติดต่อสื่อสารกับคน

         อื่น และมีปัญหาด้านพฤติกรรมอาการออทิสติกนี้จะสามารถพบได้ตั้งแต่เด็กในวัยก่อน

         2 ขวบครึ่งถึง 3 ขวบ และสามารถเกิดได้กับคนในทุกเชื้อชาติ ศาสนา ทุกเพศ แต่จะ

         พบในเด็กชายมากกว่าเด็กหญิง ประมาณ 4 เท่าในเด็กปกติ 10,000 คน จะพบเด็ก

         ออทิสติก 4 - 5 คน และบางรายงานบอกไว้ว่าหากรวมเด็กทุกระดับ อาการตั้งแต่

         น้อยไปถึงมาก อาจมีสัดส่วน 10 - 30 คน ต่อ 10,000 คนเลยทีเดียว ในประเทศ

         ไทยยังไม่มีการส ารวจสถิติที่แน่ชัด แต่ในอเมริกาพบว่าปัจจุบันมีบุคคลออทิสติกถึง

         40,000 คนแล้ว

         ส าหรับสาเหตุของการเกิดออทิสติกนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบชัดเจนว่าเกิดจาก

         สาเหตุใด แต่เชื่อว่าน่าจะมาจากหลายๆสาเหตุ ทั้งกรรมพันธุ์ ความไม่สมดุลของ

         สารเคมีในร่างกาย เด็กที่เคยมีประวัติชัก การเจ็บป่วยหรือการติดเชื้อในสมอง ความ

         ผิดปกติมารดา เช่นมีประวัติเป็นหัดเยอรมันระหว่างตั้งครรภ์ หรือการคลอด รวมทั้ง

         เรื่องมลภาวะ เช่น สารตะกั่ว ส่วนปัจจัยการเลี้ยงดูไม่ใช่สาเหตุโดยตรง แต่จะเป็น

         สาเหตุส่งเสริมที่จะท าให้เด็กมีอาการมากขึ้น หรือช่วยให้เด็กมีอาการดีขึ้นได้เช่นกัน

         อาการที่พบชัดเจน คือ เด็กจะมีความบกพร่องด้านการพูด ไม่พูด หรือพูดได้ช้ากว่าวัย

         มาก การพูดก็จะพูดในแบบไม่มีความหมาย พูดภาษาแปลกๆ พูดค าซ้ าๆ พูด

         เลียนแบบ โดยไม่เข้าใจความหมายและไม่สามารถน ามาสื่อสารได้ มักจะพูดคนเดียว

         งึมงัมๆไม่พูดกับใคร เสียงพูดก็มักจะเพี้ยนทั้งจังหวะ ความชัดเจน น้ าหนัก เด็กที่เป็น

         ออทิสติก อาจมีความผิดปกติอื่นๆเกิดร่วมด้วย เช่นเดียวกับเด็กผิดปกติทั่วไป ที่พบ

         มากคือปัญญาอ่อน ในด้านอารมณ์นั้น เด็กออทิสติกมักแสดงอารมณ์ไม่สมเหตุสมผล

         เช่น อยู่ๆก็หัวเราะหรือร้องไห้ออกมาโดยไม่สมเหตุสมผล บางคนเมื่อไม่พอใจก็จะกรีด

         ร้องโดยไม่สนใจว่าจะอยู่ที่ไหน อย่างไร และบางคนก็จะกลัวในสิ่งที่ไม่น่ากลัว เช่น กลัว

         สีแดง กลัวผ้าขนหนู แต่สิ่งที่กลัวกลับไม่กลัว สามารถกระโดดลงสระน้ าได้ทั้งที่ว่ายน้ า

         ไม่เป็น หรือเดินข้ามถนนขณะมีรถวิ่งขวักไขว่
   187   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197