Page 197 - หนังสือที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพหม่อมดุษฎี บริพัตร ณ อยุธยา
P. 197
196
ขาพเจากับพระสวามี หนาอพารทเมนต ที่พํานักแหงแรก ณ กรุงวอชิงตัน ดี ซี เดอนกุมภาพันธ พศ (คศ )
ความอยากกินของขาพเจายังไมจบแคนั้น ในปเดียวกันหลังจากแตงงานได เดอน ขาพเจาก็ตั้งครรภ และเกิดอาการแพทอง ตอนนั้นขาพเจาเกิดอยากกิน พริกขี้หนูเปนกําลัง ท้ังที่ไมเคยกินเผ็ดขนาดเค้ียวพริกข้ีหนูมากอน กินแตนํ้าพริก แกงเขียวหวาน และพริกชี้าที่ไมเผ็ดมาก สมัยนั้นทั้งกรุงวอชิงตันไมมีพริกข้ีหนู มแี ตพ รกิ ชี้ า เมด็ ใหญ ดองนาํ้ สม ในขวดคอแคบปากเลก็ (ราวกบั วา จะใหก นิ แตน า้ํ สม ) จากเท็กัสและเม็กิโก แตพริกรั่งไมมีรสเผ็ดเลยสักนิด สิ่งท่ีขาพเจาโหยหาคอ พริกของไทย ภรรยาทานเลขาเอก กรุณาใหพริกแหงมาหอหน่ง ขาพเจากินม้อเดียว หมดเกล้ียง จะไปขออีกก็เกรงใจ เพราะหายาก แลวก็พลันนกข้นไดวาหมอมแมเคย สงพริกขี้หนูดองนํ้าปลามาให ครั้งแรกที่เห็นพริกสีดําในขวดโหล ขาพเจาเกอบจะ โยนทิ้งเพราะคิดวาพริกเนากินไมไดแลว แตสุดทายนกอยางไรไมทราบ ก็เก็บเอาไว ขาพเจากินพริกดองสองโหลเต็ม ของหมอมแมหมดภายในเวลาไมก่ีวัน ผูคนรูเขา ก็โวยวายวา ระวังลูกจะออกมาหัวโลน ขาพเจาก็มิไดนําพา ปรากวาเม่อลูกคลอด ออกมา กลับมีผมดกดําเหมอนหมอมยา (ทานมีผมดกดําจนวัยชรา) ขาพเจาจง ติดนิสัยกินพริกดองนํ้าปลาตั้งแตนั้นมา (ตอมาใชีอิวดอง) เคยใหเพ่อนรั่งลองชิม