Page 16 - king philosophy_Neat
P. 16
บทสรุป
ศาสตร์ของพระราชา เน้นการพัฒนาที่มุ่งสร้างความสมดุลทางเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และ
วัฒนธรรม ตลอดจนสร้างความสุขแบบยั่งยืนภายใต้หลัก 3S ได้แก่ Survival (การอยู่รอด) Sufficiency
(พอเพียง) และ Sustainability (ยั่งยืน) การท างานต้องให้ประชาชนสามารถหารายได้ด้วยตนเองจากการเพิ่ม
มูลค่าทางการเกษตร พร้อมทั้งปกป้องสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ร่วมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายทุก
ๆ คนได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุก ๆ ขั้นตอนการพัฒนา เพื่อสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ โดยเริ่มจากการระบุปัญหา
ความต้องการ และสิ่งที่เป็นความจ าเป็นเร่งด่วน และร่วมกันออกแบบโครงการ วิธีการด าเนินงาน และ การ
ประเมินผล กระตุ้นให้ประชาชนรู้จักคิดและลงมือท าเอง เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ให้
สามารถขับเคลื่อนกระบวนการพัฒนาได้ด้วยตัวเอง หลักการส าคัญอีกประการของศาสตร์พระราชาคือ “การ
พัฒนาแบบองค์รวมและการบูรณาการ” เป็นความร่วมมือกันระหว่างหน่วยราชการต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ
ภาคเอกชนและองค์กรท้องถิ่นโดยงานพัฒนาครอบคลุมตั้งแต่การสร้างความมั่นคงทางอาหารและน้ า ไปจนถึง
การพัฒนาโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน การชลประทาน ถนนและไฟฟ้า เพื่อปูทางไปสู่โครงการพัฒนาใน
ระยะยาว นอกจากนั้นยังได้ให้ความส าคัญกับเรื่องของการพัฒนาคน สุขภาวะ การด ารงชีวิต และการศึกษา
อย่างมีบูรณาการและเป็นองค์รวม เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหาที่รอบด้านและยั่งยืน ผลของการใช้ศาสตร์ของ
พระราชา คือการสามารถช่วยเหลือปลดแอกความทุกข์ยากและสร้าง ความสุขที่ยั่งยืนให้กับประชาชน และที่
ส าคัญเกิดธุรกิจเพื่อสังคมที่สามารถสร้างความยั่งยืนให้กับประชาชนได้ ในด้านสังคม ส่วนในด้านสิ่งแวดล้อม
ประชาชนภายในพื้นที่เป็นผู้คิดเองท าเองและสามารถอยู่กับสิ่งแวดล้อม ได้อย่างกลมกลืน ทั้งยังสามารถรักษา
มรดกทางวัฒนธรรม ได้รับศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในตนเองกลับคืนมา ต้นแบบของการใช้ศาสตร์ของ
พระราชาในการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนไม่เพียงปรากฏผลสัมฤทธิ์เท่านั้น หากยังมี การน าไปประยุกต์ใช้ใน
หน่วยงานต่าง ๆ โดยยังคงยึดหลักการและแนวทางในการปฏิบัติแบบเดียวกัน เพียงแต่ ปรับให้เหมาะสมกับ
สภาพความเป็นจริง ด้วยแนวคิดการพัฒนาที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง การน าศาสตร์พระราชานอกจากจะได้รับ
ความส าเร็จภายในประเทศแล้ว ยังก้าวไปสู่ระดับสากล โดยได้มีการริเริ่มโครงการพัฒนาต้นแบบในอีกหลาย
ประเทศในภูมิภาคเอเชีย -แปซิฟิก ได้แก่ประเทศอัฟกานิสถาน เมียนมาร์ และอาเจะห์ – อินโดนีเซียจนท าให้
ได้รับความสนใจจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น ตลอดเวลาที่ได้น าศาสตร์พระราชาต่อยอดสู่การปฏิบัติซึ่งได้รับ
การพิสูจน์และการยอมรับแล้วว่า สามารถน าไปใช้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้จริงทั้งในระดับประเทศและสากลโดย
นายโคฟีอันนัน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ถวายรางวัลความส าเร็จ สูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ให้แก่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2549 ด้วยแนวคิด การพัฒนาที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง
และการสร้างอาชีพที่หลากหลาย น ามาสู่วิถีการพัฒนาทางเลือกที่ทั่วโลก ให้การยอมรับ
………………………………………………………