Page 31 - สารคดี เรื่อง พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี.
P. 31

บันทึกหลักฐานส�าคัญเกี่ยวกับค�าว่า ปุษยคีรี บันทึกของพระถังซ�าจั๋ง



                     การเดินทางไปอินเดียเพื่อศึกษาแก่นแท้พุทธศาสนาของพระถังซ�าจั๋งในพุทธศตวรรษ

               ที่ ๑๒ ท่านได้บันทึกสิ่งที่พบเห็นตลอดการเดินทางในช่วงเวลานั้นไว้อย่างละเอียด บันทึกการ
               เดินทางเล่มนั้นมีความส�าคัญยิ่งยวดต่อการศึกษาประวัติศาสตร์และหลักฐานทางโบราณคดี

               ของพุทธศาสนาในอินเดียมาจนทุกวันนี้ เมื่อพระถังซ�าจั๋งได้เดินทางมาถึงแคว้นอุฑร (Udra)
               ก็ได้บันทึกไว้ว่า “...มีสถูปกว่า ๑๐ องค์ เป็นสถานที่ที่พระตถาคตเจ้าทรงแสดงธรรมเทศนา

               พระเจ้าอโศกมหาราชทรงสร้างไว้...”

                     “...ในหุบเขาอันเป็นพรมแดนด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ (แคว้นอุฑร) มีอาราม
               ชื่อปุษปคีรีสังฆาราม (Puspagiri) สถูปหินในอารามศักดิ์สิทธิ์มาก ในวันอุโบสถมักจะเปล่งรัศมี

               โชติช่วงชัชวาล พุทธศาสนิกชนทั้งใกล้และไกล มักจะมาชุมนุมกันที่วัดนี้...”
                     แคว้นอุฑร ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของรัฐโอริสสา (Orissa) หรือแคว้นกลิงคะโบราณ (Ancient

               Kalinga) อยู่ติดชายฝั่งตะวันออกค่อนไปทางเหนือของอินเดีย นับตั้งแต่กองโบราณคดีอินเดีย
               ได้ขุดส�ารวจแหล่งโบราณสถานในรัฐโอริสสา พวกเขาได้พบซากพุทธสถานโบราณจ�านวนมากมาย

               หลายยุคสมัย แต่กลับไม่เคยพบพุทธสถาน หรือสถูปใดที่สร้างในสมัยพระเจ้าอโศกเลย ยกเว้น

               การพบจารึกหิน (Rock Edicts) ที่พระเจ้าอโศกให้จารึกธรรมและบทบัญญัติต่างๆ ไว้สอน
               ชาวบ้านชาวเมือง

                     จนกระทั่ง ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙-๒๕๔๔ นักโบราณคดีจากสถาบันศึกษาทางทะเลและเอเชีย
               ตะวันออกเฉียงใต้แห่งโอริสสา (The Orissan Institute of Maritime and South-east Asian

               Studies) ได้ส�ารวจพบพุทธสถานโบราณ ที่เนินเขาลังกุฎี (Langudi Hill) ในรัฐโอริสสา พวก
               เขาขุดพบหลักฐานและจารึกมากมายที่ยืนยันได้ว่าบริเวณนี้คือ ปุษยคีรีมหาวิหาร หรือสังฆาราม

               ที่พระถังซ�าจั๋งได้กล่าวไว้ในบันทึก และแน่นอนสถูปที่พวกเขาพบนั้นสร้างในสมัยพระเจ้าอโศก-
               มหาราช

                     จึงควรที่จะเป็นไปได้ว่าชื่อปุษปคีรีสังฆารามแห่งแคว้นกลิงคะ จะมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยง
               กับชื่อเขาปุษยคีรีหรือเขาท�าเทียม ในเมืองโบราณอู่ทอง ซึ่งเป็นสถานที่เล่าขานว่าพระโสณะเถระ

               และพระอุตระเถระ สมณทูตรัชสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ได้เดินทางมาพ�านักอยู่เมื่อครั้งที่

               เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนายังดินแดนสุวรรณภูมิ และที่เมืองโบราณอู่ทองเช่นกัน ที่นักโบราณคดี
               ได้พบค�าจารึกสันสกฤตบนแผ่นศิลาปรากฏค�าว่า “ปุษยคีรี” นอกจากนี้ยังพบรูปปั้นดินเผาและ

               รูปจ�าหลักนางกษัตริย์ประทับนั่งเหนือดอกบัว มีช้างสองเชือกชูงวงจับเต้าน�้าสรงเทลงเหนือ
               พระเศียร เป็นสัญลักษณ์ของปางประสูติ เช่นเดียวกับรูปจ�าหลักที่พระสถูปสาญจี ในอินเดีย



              30   พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิิ
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36