Page 282 - หนังสืออนุทิน พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ป.ธ. ๙) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี, ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา.
P. 282
นายสถิตย์ ทองกั๊ก ที่ไม่เจอกันเลยเป็นเวลา ๔๕ ปี ครั้งสุดท้ายข้าพเจ้า
กับพระมหาด�ารงค์ เกิดโภคา (ขณะเป็นสามเณรด�ารงค์) ได้เดินทาง
ไปหาสามเณรสถิตย์ คนยุ้งทะลายที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (วัดใต้)
ซึ่งสามเณรอยู่ได้ปีเดียวก็ย้ายไปอยู่เพชรบุรี ต่อมาลาสิกขา ประกอบ
อาชีพเป็นครู เพิ่งเกษียณอายุเมื่อปี ๒๕๕๙
ปีนี้หลวงพ่อพระธรรมพุทธิมงคล (สอิ้ง อาสน์สถิตย์ ป.ธ.๘)
(เกิดปีจอ ๔ ม.ค.๒๔๗๗) ให้ข้อคิดต่างๆ หลายอย่าง ที่จ�าได้คือ
“มนาปทายี ลภเต มนาปํ ให้น�้าใจแก่เขา เราได้น�้าใจเขากลับมา”,
จิตเหมือนปลา เมตตาเหมือนน�้า จิตปราศจากเมตตา เหมือนปลาขาดน�้า
และว่าจิตใจของเราอย่าให้เสียอย่าให้เน่า เพราะจิตใจเสียและเน่า
ด้วยความโกรธและความเกลียด หลวงพ่อให้โอวาทประจ�าปี นับเป็น
พรอันประเสริฐ บอกว่าอยู่ในมรดกหลวงพ่อทั้งนั้น
ได้น�าพาคณะไปกราบไหว้หลวงพ่อโหน่ง พระอริยสงฆ์แห่ง
อ�าเภอสองพี่น้อง พาไปดูจิตรกรรมฝาผนังที่วิหารเก่าวัดอัมพวัน
เรื่องพระมาลัย ที่ระบุว่าวาดไว้เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๖ (จะครบร้อยปีในอีก
๕ ปีข้างหน้านี้) มีภาพวาดหลวงพ่อโหน่ง (เกิด ๒๔๐๘-๒๔๗๗)
และภาพวาดแม่จ้อย โตงาม โยมมารดาหลวงพ่อโหน่งที่อายุ ๑๐๘ ปี
ส่วนศิลปินที่วาดนั้นมีชื่อพระคูณ, พระฉวย, พระตึก เป็นต้น ข้าพเจ้า
คุ้นกับชื่อนายตึก เดชรุ่ง ที่เป็นคนย่านแม่น�้า เป็นทวดหรือเป็นเทียด
ของกบ-ปภัสรา เตชะไพบูลย์ ที่ติดตามหลวงพ่อโหน่งขึ้นไปอยู่บ้านดอน
แถวนั้น ส่วนพระฉวย ข้าพเจ้าเข้าใจว่าน่าจะเป็นองค์เดียวกับที่เป็น
อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวันสืบต่อมา
พาชมศาลาเทพสุธาจารึก ซึ่งตระกูล “เทพสุธา” คนทางตลาด
บางลี่สร้างไว้ มีค�าบาลีก�ากับว่า “จิร� ติฏฺตุ โลกสฺมึ สมฺมาสมฺพุทฺธสาสน�”
280 อนุทินประจ�ำวัน

