Page 66 - สมโภชพระอารามหลวง ครบ 100 ปี วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร สุพรรณบุรี.
P. 66
(64) • สมโภชพระอารามหลวง ครบ ๑๐๐ ปี วัดป่าเลไลยก์วรวิหาร
หลวงพ่อโตองค์นั้นกับฉันคนนี้
ผู้เขียนเป็นช�วอำ�เภอเดิมบ�งน�งบวช ได้ยินชื่อหลวงพ่อโต
วัดป่�เลไลยก์ม�น�น ตั้งแต่จำ�คว�มได้เพร�ะแม่ละเอียด เมื่อตกใจ
หรือประสบเหตุเภทภัยอะไรขึ้นม�มักอุท�นว่� “หลวงพ่อโตช่วยด้วย”
เช่นลมแรงหรือฝนตกหนัก แฝกหลังค�บ้�นกระพือพรึบๆ เหมือน
จะบิน ฝนก็รั่ว แม่จะเอ�มีดเหน็บของพ่อไปปักไว้ที่นอกช�น แล้ว
หันหน้�ไปท�งทิศใต้ ยกมือไหว้ ป�กก็พูดว่�หลวงพ่อโตช่วยด้วยๆ
จ�กนั้นไม่น�นลมฝนก็สงบ ทีแรกคิดว่�หลวงพ่อโตเป็นพระสงฆ์ ต่อม�
แม่บอกว่�เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ อยู่วัดป่�เลไลยก์ ในตัวจังหวัด
เมื่อจบ ป.๔ ออกโรงเรียนแล้วได้บวชเป็นส�มเณรเพื่อเรียนต่อท�ง
ธรรม ขณะเป็นส�มเณรก็ยังมีคนที่บนไว้กับหลวงพ่อโตม�ติดต่อให้
บวชเณรแก้บนแทนอีกหล�ยครั้ง ส่วนใหญ่จะบนบวช ๗ วัน ร�ค�
ม�ตรฐ�นสมัยนั้นก็คือ ๗ วัน ๑๐๐ บ�ท แต่บ�งร�ยก็ให้ ๕๐ บ�ท
คงคิดว่�ก็เป็นเณรอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทุนอะไรม�ก กิจที่ต้องทำ�ในช่วง
รับบวชแก้บนแทนเข�ก็คือต้องสวดมนต์เช้�-เย็น และกรวดนำ้� พร้อม
จุดธูปบอกเล่�หลวงพ่อโตทุกวัน อ�ยุ ๑๖ ย่�ง ๑๗ สึกจ�กเณรไป
อยู่วงดนตรีลูกทุ่งหล�ยคณะ วันหนึ่งวงดนตรีส�ยัณห์ สัญญ� ที่อยู่
ด้วย ม�แสดงที่วัดป่�เลไลยก์ จึงได้มีโอก�สเข้�ไปกร�บไหว้หลวงพ่อโต
ในพระวิห�ร ทำ�ให้นึกถึงคำ�พูดของแม่ และตอนที่บวชเณรม�ก นับว่�
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นองค์จริงของท่�น ซึ่งก่อนหน้�นั้นเคยนั่ง
รถเมล์เข้�กรุงเทพหล�ยครั้งต้องผ่�นหน้�วัดป่�คนขับจะบีบแตร