Page 50 - <4D6963726F736F667420576F7264202D20C3B8B93120BEC3D0C3D2AAE2CDA7A1D2C320E1A1E920332E646F63>
P. 50
หน้า ๕๐
ิ
่
เล่ม ๑๓๔ ตอนที ๔๐ ก ราชกจจานุเบกษา ๖ เมษายน ๒๕๖๐
ในการประชุมรฐสภาคราวต่อไป ให้คณะรฐมนตรเสนอพระราชกําหนดนันต่อรฐสภาเพือพิจารณา
ี
่
ั
้
ั
ั
ิ
ั
ั
ั
่
ู
ั
โดยไมชักช้า ถ้าอยนอกสมยประชุมและการรอการเปดสมยประชุมสามญจะเป็นการชักช้า คณะรฐมนตร ี
่
ี
ี
ั
่
่
ั
ั
ั
ต้องดําเนินการให้มการเรยกประชุมรฐสภาสมยวิสามญเพือพิจารณาอนุมติหรอไมอนุมัติพระราชกําหนดโดยเร็ว
ื
ั
่
้
ั
ั
ถ้าสภาผูแทนราษฎรไม่อนุมติหรอสภาผูแทนราษฎรอนุมติแต่วุฒิสภาไมอนุมติและสภาผูแทนราษฎร
้
้
ื
้
่
่
ุ
ั
้
ึ
ู
่
ั
่
ยนยนการอนมติด้วยคะแนนเสียงไมมากกว่ากงหนึงของจํานวนสมาชิกทังหมดเท่าทีมอยของสภาผูแทนราษฎร
ื
ี
่
้
้
่
ให้พระราชกาหนดนันตกไป แต่ทังนีไมกระทบต่อกจการที่ได้เป็นไปในระหว่างทีใช้พระราชกําหนดนัน
ิ
้
่
้
ํ
ั
ํ
้
หากพระราชกาหนดตามวรรคหนึงมผลเปนการแกไขเพิมเติมหรอยกเลิกบทบญญัติแห่งกฎหมายใด
ี
็
่
ื
่
และพระราชกาหนดนันต้องตกไปตามวรรคสาม ให้บทบญญัติแห่งกฎหมายทีมอยกอนการแกไขเพิมเติม
ํ
่
ั
้
ู
่
ี
่
้
่
่
ั
ํ
่
ั
ั
้
ื
ี
ี
หรอยกเลิก มผลใช้บงคบต่อไปนับแต่วันทีการไมอนุมติพระราชกาหนดนันมผล
้
้
ถ้าสภาผูแทนราษฎรและวุฒิสภาอนุมัติพระราชกําหนดนัน หรือถ้าวุฒิสภาไม่อนุมัติและ
่
้
ึ
ั
ั
่
ื
ี
สภาผูแทนราษฎรยนยนการอนมติด้วยคะแนนเสียงมากกว่ากงหนึงของจํานวนสมาชิกทังหมดเท่าทีมอย ่ ู
่
ุ
้
้
็
้
ของสภาผูแทนราษฎร ให้พระราชกาหนดนันมผลใช้บงคบเปนพระราชบญญัติต่อไป
ั
ั
ํ
ี
ั
ํ
ั
การอนุมติหรอไมอนุมติพระราชกาหนด ให้นายกรัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา
่
ื
ั
่
ิ
ี
้
ั
ในกรณีไมอนุมติ ให้มผลตังแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกจจานุเบกษา
ื
การพิจารณาพระราชกําหนดของสภาผูแทนราษฎรและของวุฒิสภา และการยนยนการอนมติ
ั
ั
้
ุ
ํ
่
พระราชกาหนด จะต้องกระทําในโอกาสแรกทีมการประชุมสภานัน ๆ
ี
้
มาตรา ๑๗๓ กอนทีสภาผูแทนราษฎรหรอวุฒิสภาจะไดอนุมติพระราชกาหนดใด
ั
ื
้
้
่
ํ
่
สมาชิกสภาผูแทนราษฎรหรอสมาชิกวุฒิสภาจํานวนไม่น้อยกว่าหนึงในห้าของจํานวนสมาชิกทังหมดเท่าทีมีอยู ่
่
่
้
ื
้
่
ี
ของแต่ละสภา มสิทธิเข้าชือเสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภาทีตนเป็นสมาชิกว่าพระราชกาหนดนัน
ํ
้
่
่
ั
้
ไมเปนไปตามมาตรา ๑๗๒ วรรคหนง และให้ประธานแห่งสภานันส่งความเห็นไปยงศาลรฐธรรมนูญ
ั
ึ
่
็
้
่
ภายในสามวันนับแต่วันทีได้รับความเห็นเพือวินิจฉัย และให้รอการพิจารณาพระราชกําหนดนันไว้ก่อน
่
จนกว่าจะได้รบแจ้งคาวินิจฉัยของศาลรฐธรรมนูญ
ํ
ั
ั
ั
ั
ื
ั
ให้ศาลรฐธรรมนูญมคาวินิจฉัยภายในหกสิบวันนับแต่วันทีได้รบเรอง และให้ศาลรฐธรรมนูญ
ํ
่
่
ี
้
้
่
ั
ํ
แจ้งคาวินิจฉัยนันไปยงประธานแห่งสภาทีส่งความเห็นนันมา
่
่
ในกรณีทีศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าพระราชกําหนดใดไม่เป็นไปตามมาตรา ๑๗๒ วรรคหนึง
ี
ั
ั
ให้พระราชกาหนดนันไมมผลใช้บงคบมาแต่ต้น
ํ
่
้
คาวินิจฉัยของศาลรฐธรรมนญว่าพระราชกาหนดใดไม่เปนไปตามมาตรา ๑๗๒ วรรคหนง
ํ
ํ
่
ึ
็
ั
ู
ต้องมคะแนนเสียงไมน้อยกว่าสองในสามของจานวนตุลาการศาลรฐธรรมนูญทังหมดเท่าทีมอย ่ ู
ี
่
ํ
ั
้
่
ี
่
มาตรา ๑๗๔ ในกรณีทีมความจําเปนต้องมีกฎหมายเกียวด้วยภาษีอากรหรือเงินตรา
่
็
ี
์
ซึงจะต้องได้รบการพิจารณาโดยด่วนและลับเพือรกษาประโยชนของแผ่นดิน พระมหากษัตรยจะทรง
่
่
ั
ั
์
ิ
ั
็
ตราพระราชกาหนดให้ใช้บงคบดังเช่นพระราชบญญัติกได้
ั
ํ
ั