Page 59 - แผนปฏิบัติการห้องสมุดประชาชนอำเภอนาหว้า๒๕๖๑OKaraya (1)
P. 59
สื่ออุปกรณ์ เพื่อสนับสนุนการอ่าน และการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการอ่านอย่างหลากหลาย
๓. หลักกำรและเหตุผล
เมื่อวันที่ ๒ เม.ย.๒๕๕๙ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) โดย ส านักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและ
การศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ร่วมกับภาคีเครือข่าย ส านักงานสถิติแห่งชาติ ส านักงานกองทุนสนับสนุนสร้าง
เสริมสุขภาพ(สสส.) สื่อมวลชน อาทิ บริษัทเนชั่นมัลติมีเดียกรุ๊ปฯลฯแถลงข่าวเปิดตัวโครงการบรรณสัญจร
ประจ าปี ๒๕๕๙ (Book Voyage 2559) เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราช
กุมารี “เจ้าฟ้านักอ่าน” โอกาสคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เม.ย. และตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) พ.ศ.
๒๕๕๒ ได้ก าหนดให้วันที่ ๒ เม.ย.ของทุกปีเป็น“วันรักการอ่าน” โดยดร.ชัยยศ อิ่มสุวรรณ์ รองปลัดกระทรวง
ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวระหว่างเป็นประธานในการแถลงข่าวว่า ส านักงานสถิติแห่งชาติ ได้เปิดเผยผลการ
ส ารวจปี ๒๕๕๘ พบว่าประชากรอายุตั้งแต่ ๖ ปีขึ้นไปใช้เวลาเฉลี่ยที่ใช้อ่านนอกเวลาเรียนนอกเวลาท างานอยู่
ที่ ๖๖ นาทีต่อวัน หรือประมาณ๑ชั่วโมง๖นาที ส าหรับกลุ่มเยาวชนใช้เวลาอ่านประมาณ ๙๔นาทีหรือราว๑
ชั่วโมง ๓๔ นาทีต่อวัน ส าหรับกลุ่มผู้สูงอายุใช้เวลาเฉลี่ย ๔๔ นาทีต่อวัน ทั้งนี้ผลส ารวจยังได้รายงานถึง
ประเภทเนื้อหาสาระที่ประชาชนชอบอ่านมากที่สุดคือข่าวและสารคดีทั่วไปร้อยละ ๔๘.๕ นอกนั้นเป็นประเภท
บันเทิงและวิชาการตามล าดับ “ ในส่วนของศธ.ได้มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาในทุกช่วงวัย และ
ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงได้ก าหนดยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการท างานที่มุ่งส่งเสริมให้ประชาชนทุก
คนอ่านหนังสือมากขึ้น โดยใช้ชุมชนเป็นกลไกในการขับเคลื่อนจนเกิดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต จึง
น ามาสู่การด าเนินโครงการบรรณสัญจรประจ าปี ๒๕๕๙ (Book Voyage 2559) ที่ส านักงาน กศน.ได้ร่วมกับ
ภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หรือประชารัฐ เพื่อร่วมกันระดมสรรพก าลังในการขอรับบริจาคหนังสือ
จ านวน ๑๐ ล้านเล่ม ส่งไปยังหมู่บ้านและชุมชนทั่วประเทศ โดยเป้าหมายส าคัญคือ ต้องการปลุกกระแสการ
รักการอ่านของคนไทยให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ” ด้าน นายสุรพงษ์ จ าจด เลขาธิการ กศน. กล่าวว่า ใน
ชุมชน หนังสือถือเป็นสื่อที่ประชาชนมีโอกาสเข้าถึงมากกว่าสื่อโซเชียลมีเดียในสังคมเมือง ที่ผ่านมาส านักงาน
กศน.ได้จัดตั้งบ้านหนังสือชุมชนปัจจุบันมีอยู่จ านวน ๑๘,๕๐๐ แห่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชุมชนเสียสละ
พื้นที่บางส่วนของบ้านตนเองให้เป็นพื้นที่ที่ให้สมาชิกในชุมชนมาอ่านหนังสือซึ่งมีทั้งวารสาร หนังสือพิมพ์
นิตยสาร ซึ่งได้รับมาจากการบริจาคและสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายต่างๆ และปัจจุบันหนังสือยังเป็นที่ต้องการ
ของชุมชนอีกจ านวนมาก
ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอ าเภอนาหว้า ได้น้อมน าค าพระราชด ารัส ตอน
หนึ่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามราชกุมารี ว่า “การรู้หนังสือเป็นความจ าเป็นส าหรับทุกชาติที่
ก าลังพัฒนาตลอดจนเป็นกิจกรรมที่ต้องร่วมมือกัน ส่งเสริมให้บรรลุผลให้ได้ ถ้าปราศจากพื้นฐานการรู้หนังสือ
ของประชาชนในประเทศแล้ว ความพยายามในการ ด าเนินการพัฒนาคงไร้ผล การรู้หนังสือเป็นส่วนหนึ่งของ