Page 78 - Ebook
P. 78

๑๘. ปลงอาบัติ
กอ่ นมกี ํารสวดปําฏโิมกข์ทกุ ครงั้ จะมกี ารปลงอาบตั ิ(สารภาพความผดิ ) ท่ีเป็นความผิดเล็กๆ น้อยๆ ถึง ความผิดกลางๆ ในทางพระวินัยหรือสิกขาบท ที่ตั้งใจศึกษาปฏิบัติ เพื่อเป็นการปลดปล่อยตัวเองจากยึดม่ัน ถือม่ันในตัวเรา ของเรา ที่ยังหลงใหลในรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ด้วยการสารภาพต่อหน้า กัลยาณมิตร ท่ีได้ล่วงละเมิดหรือกระทําผิด และเริ่มต้น ต้ังต้นใหม่ที่จะไม่ กระทําความผิดนั้นอีก ต้ังใจพากเพียรที่สร้างพลังแห่งสติสัมปชัญญะ ในทุกอิริยาบถแห่งการกระทํา เพ่ือให้ก่อเกิดพลังแห่งสมาธิ ท่ีสร้างความสว่าง ชัดเจน ทําลายอวิชชา (ความไม่รู้) ท่ีส่งผลให้เรากระทําผิดเพราะความยึดหลง ซา้ํ แลว้ ซา้ํ เลา่ แมห้ ลายๆ ครงั้ เราไมไ่ ดอ้ ยากกระทาํ หรอื ตงั้ ใจทจี่ ะกระทาํ ผดิ กต็ าม แต่เพราะพลังแห่งสติ สมาธิ ปัญญา แห่งเรายังไม่เพียงพอนั้นเอง
การสวดปาฏิโมกข์ทุกกึ่งเดือน (๒ อาทิตย์ต่อคร้ัง) เพ่ือเป็นการทบทวน เตือนตนในความบริสุทธิ์ของศีลสิกขาในช่วงสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นดั่ง รากฐานแห่งการนําสู่อิสรภาพ ความสุขสงบอย่างแท้จริง ปลดปล่อยตัวเอง จากความยึดมั่นถือม่ันท้ังปวง
เมื่อเรามีเวลาอยู่กับตัวเอง ไม่เสพ บริโภค อุปโภคส่ิงที่เป็นพิษภัย ท่ีจะนําความไม่สงบสุข เดือดร้อนต่อภาวะทางกายและใจ รับส่ิงเหล่านั้น เพียงเพ่ือการดํารงอยู่แห่งสังขาร (ร่างกายและจิตใจ) อย่างรู้พอประมาณใน การเสพ รับรู้ทางประสาทสัมผัสทั้งหก ไม่ปล่อยให้อํานาจแห่งความเพลิดเพลิน หลงใหลบงการชีวิต สัมผัสกับธรรมชาติบริสุทธิ์ หล่อเล้ียงความสงบเงียบ ทงั้ ภายในและภายนอก สรา้ งพลงั แหง่ สตทิ กุ ๆ วนั เราจะคอ่ ยๆ เหน็ ความไมน่ า่ รกั ตัวเองมากมายจนบางครั้งเรารู้สึกกลัว รังเกียจ เกลียดชังความไม่น่ารักเหล่าน้ัน ที่เรายึดม่ันถือม่ันว่าดี ใช่ ด้วยความมืดบอดแห่งอวิชชา (ความไม่รู้) แต่เรา จะเร่ิมเรียนรู้ค่อยๆ ยอมรับความไม่น่ารักเหล่าน้ัน ส่ิงน้ีเป็นจุดเริ่มต้นของ
66 : บ า ต ร เ ดี ย ว ท่ อ ง โ ล ก ๒
    





























































































   76   77   78   79   80