Page 4 - บทที่ 15 ไฟฟ้าและแม่เหล็ก
P. 4
4
15.7 กระแสไฟฟ้าเหนี่ยวน าและแรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวน า
้
เมื่อฟลักซ์แม่เหล็กเปลี่ยนแปลงผ่ำนขดลวดตัวน ำและลวดตัวน ำที่ต่อเป็นวงจรปิดจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟำ
เหนี่ยวน ำ ท ำให้ขดลวดตัวน ำหรือลวดตัวน ำท ำหน้ำที่เสมือนเป็นแหล่งก ำเนิดไฟฟ้ำ
ั
้
กฎของฟำรำเดย์สรุปได้ว่ำ แรงเคลื่อนไฟฟำเหนี่ยวน ำที่เกิดขึ้นในขดลวดเป็นสัดส่วนกับอตรำกำรเปลี่ยนแปลง
ของฟลักซ์แม่เหล็กที่ผ่ำนขดลวดนั้นเมื่อเที่ยบกับเวลำ
้
กำรหำทิศทำงของกระแสไฟฟ้ำเหนี่ยวน ำในขดลวดตัวน ำ หำได้จำกกฎของเลนซ์ ซึ่งมีใจควำมว่ำแรงเคลื่อนไฟฟำ
เหนี่ยวน ำในขดลวดจะท ำให้เกิดกระแสไฟฟำเหนี่ยวน ำในทิศทำงที่จะท ำให้เกิดฟลักซืแม่เหล็กใหม่ขึ้นมำเพอต้ำนกำร
ื่
้
เปลี่ยนแปลงของฟลักซ์แม่เหล็กเดิมที่ตัดผ่ำนขดลวดนั้น
15.8 แรงเคลื่อนไฟฟ้าเหนี่ยวน าในมอเตอร์และเครื่องก าเนิดไฟฟ้า
้
มอเตอร์ขณะหมุนจะมีฟลักซ์แม่เหล็กเปลี่ยนแปลงผ่ำนขดลวด ท ำให้เกิดแรงเคลื่อนไฟฟำเหนี่ยวน ำมีทิศทำงตรง
ข้ำมกับแรงเคลื่อนไฟฟ้ำเดิม เรียกว่ำ แรงเคลื่อนไฟฟ้ำกลับ ในกรณีที่มอเตอร์ติดขัดหรือหมุนช้ำกว่ำปกติ แรงเคลื่อนไฟฟำ
้
ื่
กลับจะมีค่ำน้อยท ำให้กระแสไฟฟ้ำในขดลวดมีค่ำมำก อำจท ำให้ขดลวดร้อนจนขดลวดไหม้ได้ จึงจ ำเป็นต้องตัดสวิตช์เพอ
หยุดกำรท ำงำนของมอเตอร์ทุกครั้งที่แรงเคลื่อนไฟฟ้ำกลับมีค่ำน้อย
้
เครื่องก ำเนิดไฟฟำเป็นอปกรณ์เปลี่ยนพลังงำนกลเป็นพลังงำนไฟฟำที่ท ำงำนโดยใช้หลักกำรท ำให้เกิด
ุ
้
์
แรงเคลื่อนไฟฟ้ำเหนี่ยวน ำในขดลวด เมื่อท ำให้ฟลักซแม่เหล็กผ่ำนขดลวดมีกำรเปลี่ยนแปลง เช่น ใช้กำรหมุนขดลวดตัดฟ
ลักซ์แม่เหล็ก โดยที่ปลำยขดลวดต่อกับวงจรภำยนอกผ่ำนคอมมิวเตอร์และแปรงสัมผัสท ำให้ทิศทำงของกระแสไฟฟำใน
้
วงจรมีทิศทำงเดียวกัน เรียกว่ำกระเสตรง หำกมีทิศทำงกลับไฟมำ เรียกว่ำ กระแสสลับ
15.9 หม้อแปลง
หม้อแปลงเป็นอปกรณ์ส ำหรบถ่ำยโอนพลังงำนไฟฟำ(แรงเคลื่อนฟำ) ประกอบด้วยขดลวดที่ต่อเข้ำกับ
้
ุ
้
ี
แหล่งก ำเนิดไฟฟำ เรียกว่ำ ขดลวดปฐมภูมิ ส่วนลวดอกขดซึ่งต่อกับเครื่องใช้ไฟฟำ เรียกว่ำ ขดลวดทุติยภูมิ โดยที่มี
้
้
ควำมสัมพันธ์ของแรงเคลื่อนไฟฟ้ำกับจ ำนวนรอบของขดลวดเป็นดังนี้ คือ
1 1
2 = 2
= แรงเคลื่อนไฟฟำของขดลวดปฐมภูมิ
้
1
= แรงเคลื่อนไฟฟ้ำของขดลวดทุติยภูมิ
2
= จ ำนวนรอบของขดลวดปฐมภูมิ
1
= จ ำนวนรอบของขดลวดทุติยภูมิ
2