Page 58 - รายงานประจำปี ศทส. 2559
P. 58
วิธีการป้องกันไวรัสเบื้องต้น (Ransomware Virus)
Ransomware เป็น Malware ที่ไม่ได้สร้างความเสียหายกับผู้ใช้งาน Windows เท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างความเสียหายให้กับ
อุปกรณ์มือถือหรือระบบปฏิบัติการอื่นๆ ได้และยังแพร่กระจายผ่าน USB (Flash Drive) ,Storage (File Share) อีกทั้งยังสามารถส่ง
Spam email ไปยังผู้ใช้งานต่างๆ ด้วยหัวข้อหรือค าพูดที่น่าสนใจ ดึงดูดให้กดเข้าไปอ่านและ Download File แนบเหล่านั้น โดยเมื่อ
เครื่องผู้ใช้งานติด Malware ประเภทนี้แล้ว จะท าการเข้ารหัสเอกสารข้อมูลต่างๆภายในเครื่องที่ใช้งานอยู่ท าให้ไม่สามารถเปิดอ่านเอกสาร
เหล่านั้นได้ หรือในบางครั้งถึงกับ Lock เครื่องไว้ ผู้ใช้งานจึงไม่สามารถเข้าใช้งานเครื่องได้เลย จากนั้น Ransomware ก็จะแสดงข้อความขู่
ผู้ใช้งานให้โอนเงิน (ปัจจุบันมักจะให้จ่ายในรูปแบบของ Bitcoin) ให้กับ Hacker ก่อนที่ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกลบทิ้งไป ซึ่งเบื้องต้นทาง
ศูนย์ฯ ได้มีการคัดกรอง e-mail และ File ในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถที่จะป้องกัน Ransomware ทั้งหมดได้ ทางศูนย์ฯ จึงขอความ
ร่วมมือจากทุกหน่วยงานในการตรวจสอบเพิ่มเติม
ตัวอย่าง File ที่สามารถโดนคุกคามจาก Ransomware
วิธีป้องกัน e-Mail หรือ File ที่คาดว่าจะเป็นไวรัส
1. ไม่คลิกลิงค์หรือเปิดไฟล์ที่มาพร้อมกับ e-Mail ที่น่าสงสัย
หรือหากไม่มั่นใจ ให้สอบถามจากผู้ส่งโดยตรง
2. File แนบมากับ e-mail ชื่อแปลกๆ อ่านแล้วจับใจความ
ไม่ได้ ชื่อไม่สื่อความหมาย และอาจจะถูกบีบอัดไฟล์ด้วย
โปรแกรม .zip, .rar
3. อาจจะมีอักขระพิเศษผสมเข้ามาด้วย เช่น #,$,%,@,*
เป็นต้น
4. เมื่อท าการเปิด File แล้วจะให้ท าการติดตั้งโปรแกรม
อื่นๆ เพิ่มเติม ตัวอย่างชื่อของ File ก่อนติดไวรัส
5. ได้รับเมล์จากบุคคลแปลกหน้าหรือไม่เคยทราบ
Account ของผู้ติดต่อมาก่อน
6. หลีกเลี่ยงการเข้าใช้งานเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม
เมื่อเครื่องติดไวรัสแล้ว ควรท ำอย่ำงไร...!?
1. ตัดการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายทันที
2. หยุดการ Share File หรือ Copy File ให้กับผู้อื่น
3. ติดตั้งระบบปฏิบัติการ (Windows) ใหม่ ตัวอย่างชื่อของ File หลังติดไวรัส
4. ติดต่อประสานงานเจ้าหน้าที่เพื่อรับค าแนะน าและวิธีการ
ช่วยเหลือต่อไป
แจ้งปัญหาหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ e-Mail : itc@drr.go.th หรือ โทร : 0-2551-5040 (Call Center)