Page 42 - C:\Users\Admin\Documents\Flip PDF Professional\Tammavimok 2\
P. 42

เป็นประโยชน์ในด้านเจริญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานแต่ความ

                                                             ี
                                             ี
           จริงเสียงเพลงก็ดี เสียงขับประโคมก็ด การดูมหรสพก็ด ย่อมเป็นปัจจัยให้ถึง
           โมกขธรรมได้โดยง่าย ดูตัวอย่างท่านพระโมคคัลลาและพระสารีบุตรก่อนท      ี ่

           จะออกบวช ท่านเองท่านก็ไปดูมหรสพตามปกต ทุกคราวที่ดูมหรสพก็มีความ
                                                      ิ
                                                                            ี
           ร่นเริง ให้รางวัลตามสมควร ถ้าชอบใจเพราะในฐานะเป็นลูกมหาเศรษฐ แต่
            ื
                                                            ั
           มาในวันสุดท้ายปรากฏว่าท่านท้งสองนี้นั่งหน้าสลดท้งสองท่าน ขาดความ
                                         ั
            ื
                                                                        ื
           ร่นเริงบันเทิงใจ พระโมคคัลลาจึงถามพระสารีบุตรว่า “สหาย วันน้เพ่อนทาไม
                                                                      ี
                                                                            �
           ไม่มีการร่นเริง” ท้งสองท่านมีความเห็นตรงกันบอกว่าเราก็ดี บุคคลท่แสดง
                    ื
                            ั
                                                                          ี
                         ั
                                                         ี
                                              ัรธัมมวิโมกข์
                                                  ั
           ก็ดีและบุคคลท้งหลายที่มาดูมหรสพก็ดี ท้งหมดน้ในไม่ช้าต่างคนก็ต่างตาย
                ื
                                                                          ี
           ในเม่อต่างคนต่างตาย การมาดูมหรสพมันก็ไม่มีประโยชน์และการท่เกิดมา
                                 ิ
           มันมีแต่โทษไม่มีคุณ เกดแล้วก็ตาย ตายแล้วก็เกิด นมันจะมีประโยชน์อะไร
                                                           ี
                                                           ่
                                      นิตยสา
                                                                ี
             ี
                               ี
           น่เพราะอาศัยปัจจัยท่ท่านดูมหรสพ ท้งสองท่านเป็นคนท่มีบารมีเต็มเปี่ยม
           แล้ว เคยอธิษฐานเป็นอัครสาวกของสมเด็จพระประทีปแก้ว จึงคิดในใจว่า
           ในโลกน้มีของมันมีคู่กัน มีมืดแล้วมีสว่าง มีเกิดแล้วก็มีตาย ธรรมใดท่ทาให้
                                                                            �
                   ี
                                                                           ี
           เกิด ธรรมท่ทาให้ตายมีอยู่ได้ ฉะน้น ธรรมท่ทาให้บุคคลไม่ให้ตายมันต้องมี
                                                   ี
                      ี
                       �
                                                     �
                                           ั
                                                                 ื
             ั
           ท้งสองคนจึงตัดสินใจแสวงหาโมกขธรรม คือธรรมเป็นเคร่องพ้นจากความ
           ตาย จึงเข้าไปหาท่านสัญชัยปริพาชก และก็ได้พบพระพุทธเจ้าในภายหลัง
                  นี่เรามาคุยกันดีกว่า การดูมหรสพมันมีประโยชน์ ดูก็ด อย่าดูเลยด ู
                                                                    ู
                                        ี
           แล้วก็จงคิดไปด้วยว่า คนดูก็ด คนแสดงก็ด มันตายด้วยกันหมด มหรสพ
                                                    ี
             ี
           ท่เขาแสดงแล้วมันก็แล้วไป ตัวใหม่ออกมา ตัวเก่าเข้าไป แสดงไปแสดงมา
                                             38
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47