Page 67 - C:\Users\Admin\Documents\Flip PDF Professional\Tammavimok 2\
P. 67
ี
เสียดาย ท่ไม่สามารถเก็บภาพนั้นไว้ได้
ี
ี
ขณะท่ทุกคนอยู่ท่ค่ายนั้น เราก็แยกย้ายกันไปเย่ยมเยียนนครท้ง 4
ี
ั
เพ่อปลอบใจและให้กาลังใจเขาต่อไป ทหารทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า
�
ื
ี
ี
“ยังไม่มีใครมาเย่ยมพวกผมเลยครับ” คณะเราท่หนุ่มๆ สาวๆ ก็ออกไปคุย
กับทหาร ประเภทหนุ่มน้อยสาวน้อยก็รออยู่ที่กองอ�านวยการ ผลจากการท ี ่
เราไปคุยกับเขามา ก็พอจะสรุปได้ว่า อากาศหนาวมาก เขาขาดเครื่องให้ความ
อบอุ่น ขาดยารักษาโรค ในด้านอาหารก็กินดีบ้างไม่ดีบ้าง แต่สาหรับอาหาร
�
กระป๋องน้น ส่วนมากจะเสียมากกว่าจะได้กิน เขาต้องการข้าวเนรมิต (ข้าว
ั
้
�
แห้ง) นาพริก ปลากรอบกระป๋องๆ ต้องการมากกว่าเคร่องกระป๋อง แต่เขา
ื
นิตยสารธัมมวิโมกข์
ี
บอกว่าเขามีความทุกข์ ก็ไม่เท่ากับพวกท่อยู่ติดชายแดนจริงๆ ต้องน่งกอด
ั
ปืนคอยระวังอันตรายตลอดเวลา เราก็ได้แต่ปลอบใจเขา และให้กาลังใจเขา
�
ี
ั
ให้เขาเห็นความส�าคัญของตัวเขา ท่มีต่อประเทศชาติต่อคนไทยท้งประเทศ
ั
เราเองก็บอกเขาได้เพียงว่า ชีวิตทุกชีวิตและทุกอาชีพต่างก็มีความทุกข์ท้ง
�
ี
นั้น จะมากหรือน้อยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่สาหรับพวกเขาก็ควรจะภูมิใจท่ได้
�
ี
้
เกิดมาทาหน้าท่อย่างนี พร้อมกันบอกเขาว่าดีแล้ว ขอให้พวกเขาสู้ต่อไปเถอะ
ี
ุ
ึ
ิ
่
ื
เราเองก็ได้แต่ทอดถอนใจ เมอเหนสภาพชวตของทหารทกคน นกใน
็
ี
ใจว่า.. เราเองก็สู้มานานแล้ว จนเราไม่ต้องการท่จะเกิดมาสู้อีก น่เป็นเพียง
ี
ิ
ี
ึ
มุมหนึ่งของโลก ท่ด้นรนอยู่ในห้วงของความทุกข์ ซ่งความหวังเบื้องหน้า เรา
ี
ไม่ทราบได้ว่า...เขาคิดอย่างไร แต่การท่เขาได้เห็นพระ ได้กราบพระ และได้
ี
�
รับคาปลอบใจ ไมตรีจากคณะของเรา และท่สาคัญคือได้รับเหรียญไพรีพินาศ
�
เป็นท่พ่งสุดท้ายของเขา เขาก็พอใจแล้ว
ึ
ี
63