Page 23 - demo
P. 23
ื
ื
เขาก็กินไม่ลง และสักแต่ว่ากินลงไปเท่านั้น เร่องนี้เป็นเร่องใหญ่
ฉะนั้น การสอนจะต้องยึดบารมีขององค์สมเด็จพระจอมไตรเป็นเหต ุ
ิ
�
อย่าท้งพระพุทธเจ้า อย่าสร้างความรู้ของตัวเองเป็นสาคัญ ครูผู้สอนศิษย์
เราจะวินิจฉัยได้ ทว่าใช้กาลังใจไม่ถูกไปเร่งรัดก�าลังใจศิษย์เกินไปก็ดี ใช้
�
�
ั
�
้
�
ี
ั
คาขู่เข็ญว่าต้องท�าอย่างน้น ต้องทาอย่างน ต้องทาให้ได้ในเวลาน้น เวลาน้ก ็
ี
ดี หรอว่าไปสอนธรรมะนอกรดนอกรอยจากอารมณ์ของการปฏิบตก็ดี คร ู
ื
ั
ี
ิ
ี
ประเภทน้จะทราบได้ทันทีว่าท่านผู้นี้ไม่ได้อะไรเลย แต่ก็สอนไปตามประเพณี
ท่ได้เลยรับการแนะน�ามาเท่าน้น
ั
ี
อีกประการหนึ่ง ครูผู้สอนจะต้องมีอารมณ์ละเอียด อารมณ์ละเอียด
นิตยสารธัมมวิโมกข์
เป็นอย่างไร ตามปกติเราจะต้องเป็นผู้มีศีลบริสุทธ ถ้าเรามีแค่ศีล 5 บริสุทธ์ก็
ิ
์
ิ
ิ
ิ
อย่าลืมว่าอารมณ์ของเราอยู่ในขั้นตามาก ถ้าหากเรามีศีล 8 บริสุทธ์เป็นปกต ก ็
�
่
ื
ช่อว่ามีอารมณ์ขั้นกลาง ถ้าเป็นฆราวาส ความรู้สึกในทางกาย ไม่สนใจในทาง
กายจริงๆ มีความม่นคงในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไม่ทะนงตัวว่าเป็น
ั
์
ผู้วิเศษเป็นผู้รู้ดี แล้วก็มีศีลบริสุทธ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ จิตใจบรรเทา
ิ
ึ
ความรักในระหว่างเพศ ความโลภ ความโกรธ ความหลง หรือว่าถ้าสูงข้นไป
ั
�
จนกระท่งอารมณ์ใจหมดความโกรธ หมดความราคาญ ไม่มีความผูกพันใน
ื
ี
เรื่องของเพศ เห็นเร่องของเพศเป็นของจืดๆเหมือนกระดาษท่ไร้ค่าไม่มีความ
ื
ี
ปรารถนาในเร่องเพศ ถูกเขานินทาว่าร้ายใส่ความ ใจมีความสุขอย่างน้ชื่อว่า
เป็นครูได้พอสมควร อารมณ์ของใจเรามีอารมณ์พอสมควรยังไม่ด เป็นอันว่า
ี
ั
ึ
คร่งหนึ่งของครู คร่งหนึ่งของครูช้นดี
ึ
ี
ครูช้นดีจริงๆ ต้องไม่หลงในอารมณ์ของสมาธิ คือฌานสมาบัติท่เรียก
ั
ว่ารูปฌาน แล้วก็ไม่หลงในอรูปฌาน ไม่มีการมานะทะนงตน คาว่าทะนงตน ก ็
�
19