Page 38 - คู่มือความรู้เข้าใจในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเล่ม 2
P. 38
�
ื
ื
ี
ยินยอมในฐานะคู่สมรสให้ภรรยาประมูลซ้อท่ดินและทาสัญญาซ้อขายท่ดิน
ี
ี
ื
ส่งผลให้เป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้ส่วนเสียในสัญญาซ้อท่ดินโฉนดแปลง
ดังกล่าว อันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม
เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย มีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ
ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 100 (1)
3. การท�างานหลังจากออกจากต�าแหน่งหน้าที่สาธารณะ หรือหลังเกษียณ
ึ
�
ิ
3.1 อดีตผู้อานวยการโรงพยาบาลแห่งหน่งเพ่งเกษียณอายุราชการไป
ี
�
�
ี
ทางานเป็นท่ปรึกษาในบริษัทผลิตหรือขายยา โดยใช้อิทธิพลจากท่เคยดารง
ี
ื
ตาแหน่งในโรงพยาบาลดังกล่าว ให้โรงพยาบาลซ้อยาจากบริษัทท่ตนเองเป็น
�
ที่ปรึกษาอยู่ พฤติการณ์เช่นนี้มีมูลความผิดทั้งทางวินัยและทางอาญาฐานเป็น
เจ้าหน้าท่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ท่อาจ
ี
ี
ท�าให้ผู้อื่นเชื่อว่าตนมีต�าแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งที่ตนมิได้มีต�าแหน่งหรือหน้าที่นั้น
�
เพื่อแสวงหาประโยชน์ท่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสาหรับตนเองหรือ
ี
ื
ผู้อ่น ตามพระราชบัญญัตประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม
ิ
การทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 123
ี
ุ
3.2 การทผู้บรหารหรอเจ้าหน้าทขององค์กรด้านเวชภัณฑ์และสขภาพ
่
ื
ี
่
ิ
ออกจากราชการไปท�างานในบริษัทผลิตหรือขายยา
3.3 การท่ผู้บริหารหรือเจ้าหน้าท่ของหน่วยงานท่เกษียณแล้วใช้
ี
ี
ี
อิทธิพลที่เคยด�ารงต�าแหน่งในหน่วยงานรัฐ รับเป็นที่ปรึกษาให้บริษัทเอกชนที่
ตนเคยติดต่อประสานงาน โดยอ้างว่าจะได้ติดต่อกับหน่วยงานรัฐได้อย่างราบรื่น
3.4 การว่าจ้างเจ้าหน้าที่ผู้เกษียณมาท�างานในต�าแหน่งเดิมที่หน่วยงาน
เดิมโดยไม่คุ้มค่ากับภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
38