Page 27 - สัมมนา 2_2563_Neat
P. 27

21





























                    ที่มา: เบญจวรรณ และนริศ (2561)
                                                                    ี
                    ภาพที่ 3 การผลิตไคติเนส (a) และโปรติเอส (b) โดยแบคทเรียแอคติโนมัยซีสเจริญบนจานอาหาร GYMA
                            + colloidal chitin1% และ skim milk 3% ที่แสดงผลรอบโคโลนี


                           สุกานดา และคณะ (2561) ได้ศึกษาความสามารถของรา B. basisana ไอโซเลท LARTC2

                    ร่วมกับสารละลายเอมไซม์ไคติเนสและโปรติเอสในการเข้าท าลายเพลี้ยแป้งมันส าปะหลังสีชมพใน
                                                                                                         ู
                    ระดับห้องปฏิบัติการโดยใช้เทคนิคการสุ่มแบบสมบูรณ์ (completetely randomized

                    desigh,CRD) โดยมีกรรมวิธีทั้งหมด 8 กรรมวิธี ดังนี้ T1 control (0.1% (v/v) tween 80) T2
                    (crude chitinase) T3 (crude protease) T4 (crude chitinase + crude protease) T5 (สปอร์

                    รา B. bassiana ไอโซเลท LARTC2) T6 (สปอร์รา B. bassiana ไอโซเลท LARTC2 + crude

                    chitinase) T7 (สปอร์รา B. bassiana ไอโซเลท LARTC2 + crude protease) และ T8 (สปอร์รา

                    B. bassiana ไอโซเลท LARTC2 + crude chitinase + crude protease) พบว่า กรรมวิธีที่มีสาร

                    แขวนลอยสปอร์รา B. bassiana ไอโซเลท LARTC2 ใช้ร่วมกับสารละลายเอมไซม์ไคติเนสและโปรติ
                    เอส (T6, T7, T8) มีอัตราการตายสูงกว่ากลุ่มอื่น เมื่อพจารณาเปอร์เซ็นต์การตายของเพลี้ยแป้งมัน
                                                                    ิ
                    ส าปะหลังสีชมพูใน Table 3 อยู่ในช่วง T6 (54.44) T7 (53.33) และ T8 (65.56) อย่างไรก็ตามจาก

                    การศึกษาครั้งนี้มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยส าคัญ (ตารางที่ 3) และผลการศึกษาทาง

                    กายภาพของเพลี้ยแป้งมันส าปะหลังสีชมพูที่ตายหลังการทดสอบความสามารถของรา B. bassiana

                    ไอโซเลท LARTC2 ร่วมกับสารละลายเอมไซม์ไคติเนสและโปรติเอสในการเข้าท าลายจากรูปภาพ
                    แสดง T8 ที่มีสารแขวนลอยสปอร์ราร่วมกับสารละลายเอมไซม์ไคติเนสและโปรติเอสมีผลท าให้ผนัง

                    ล าตัวของเพลี้ยแป้งมันส าปะหลังสีชมพถูกท าลายและมีเส้นใยราเริ่มปกคลุมตัวเพลี้ยแป้งมากกว่า
                                                       ู
                    กรรมวิธีอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเกี่ยวข้องกับการที่สารละลายเอมไซม์ไคติเนสและสารละลายเอมไซม์โปรติ
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32