Page 12 - การบริหารจัดการระบบประปาหมู่บ้านของประเทศไทย: กรณีศึกษาชุมชน จังหวัด นครนายก
P. 12
2
ุ
ิ
และจำกข้อมลรำยงำนผลกำรด ำเนนงำนโครงกำรจัดท ำแผนพัฒนำน ้ำอปโภคบรโภคระดับต ำบลซง
ิ
ู
่
ึ
ื
ิ
็
ี่
เปนโครงกำรทประสำนควำมร่วมมอระหว่ำงส ำนักบรหำรจัดกำรน ้ำ กรมทรพยำกรน ้ำ และ
ั
ิDPU
ิ
ี
ิ
ั
ี่
ิ
ั
กระทรวงทรพยำกรธรรมชำตและส่งแวดล้อม ประจ ำป 2555 ก็ยังพบปญหำทต้องด ำเนนกำรต่อ
โดยสำมำรถวิเครำะหออกมำใน 5 ด้ำน ดังน้ 1) ด้ำนแหล่งน ้ำทั้งทเปนบ่อบำดำลและน ้ำผิวดนส่วน
ี
์
ิ
ี่
็
ิ
ี
ิ
ใหญ่จะมปรมำณน ้ำไม่พอเพียงต่อกำรน ำมำผลตน ้ำประปำ 2) ด้ำนคณภำพน ้ำ ส่วนใหญ่น ้ำดบท ี่
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ี่
็
น ำมำผลตน ้ำประปำมควำมเปนกรดเปนด่ำง ควำมเค็ม สนมเหล็ก แมงกำนส คลอไรด์ ทเกินเกณฑ์
็
ิ
ั
มำตรฐำน ท ำให้มปญหำในกำรปรบปรงให้ได้มำตรฐำน 3) ด้ำนโครงสรำงระบบประปำ ส่วนใหญ่
ี
ุ
้
ั
ั
ุ
ี
ู
มกำรใช้งำนมำนำน ขำดกำรดแลบ ำรงรกษำ และบำงแห่งไม่ได้มำตรฐำน เช่น ไม่มระบบกรอง ไม่ม ี
ี
ี
ระบบฆ่ำเช้อโรค ไม่มมำตรน ้ำ ฯลฯ 4) ด้ำนระบบกระจำยน ้ำ พบว่ำ ท่อเมนจ่ำยน ้ำส่วนใหญ่ม ี
ื
ื
สภำพเก่ำ มขนำดเล็กไม่เหมำะสมต่อกำรใช้งำน และยังไม่ครอบคลมทกหลังคำเรอน 5) ด้ำนกำร
ุ
ี
ุ
บรหำรจัดกำร พบว่ำ ผู้บรหำรระบบประปำ และผู้ผลตน ้ำประปำ (ผู้ดแลระบบประปำ ) ส่วนใหญ่
ิ
ิ
ู
ิ
ู
ู
ิ
้
ิ
ิ
ยังไม่เคยผ่ำนกำรอบรมควำมรเชงวิชำกำร ด้ำนกำรบรหำรจัดกำร กำรผลตและกำรดแลกิจกำร
ิ
ประปำ ส่งผลให้มผลกระทบกำรบรกำรกิจกำรประปำทั้งด้ำนควำมมั่นคงของกิจกำร คณภำพน ้ำ
ี
ุ
้
้
ึ
์
อำยุกำรใช้งำนของโครงสรำง และอปกรณต่ำงๆในโครงสรำง ไม่สำมำรถใช้งำนได้เต็มศักยภำพ จง
ุ
ุ
ิ
ุ
ี่
ี
ท ำให้ระบบประปำทรดโทรม ประสบภำวะขำดทน หรอมก ำไรไม่มำกพอทจะเพิ่มประสทธภำพ
ื
ิ
ู
้
ู
ึ
ของระบบกำรผลตให้ดข้นได้ รวมถงชมชนยังขำดควำมรควำมเข้ำใจในกำรมส่วนร่วมในกำรดแล
ิ
ี
ึ
ี
ุ
ุ
ู
ั
บ ำรงรกษำระบบประปำหม่บ้ำน
ิ
ึ
์
จำกผลกำรวิเครำะหดังกล่ำวข้ำงต้น จะพบว่ำถงแม้กำรด ำเนนงำนตำมแผนนโยบำยจะ
ด ำเนนกำรมำอย่ำงต่อเนอง โดยมหน่วยงำนทด ำเนนกำรก่อสรำงหลักๆ 5 หน่วยงำน คอ กรมเร่งรด
ิ
ี่
ั
ื่
ื
ี
้
ิ
ิ
พัฒนำชนบท กรมทรพยำกรธรณ กรมโยธำธกำร กรมอนำมัย และกรมทรพยำกรน ้ำ ก็ยังพบว่ำ
ี
ั
ั
ี
ระบบประปำหม่บ้ำนของแต่ละหน่วยงำนยังคงต้องมกำรปรบปรงและพัฒนำเพื่อให้เกิดกำรบรหำร
ู
ุ
ั
ิ
จัดกำรทดและมประสทธภำพเพื่อตอบสนองกำรใช้น ้ำด้ำนอปโภคบรโภค กำรเกษตรกรรม และ
ี
ี่
ี
ิ
ุ
ิ
ี
ึ
ุ
ึ
ึ
ึ
ี
อตสำหกรรม ให้กับประชำชนให้ทั่วถงมำกข้น ดังนั้นกำรศกษำวิจัยในคร้ ังน้ ทำงผู้วิจัยจงมควำม
ู
ึ
ั
ิ
ุ
สนใจทจะศกษำกระบวนกำร รปแบบ ปญหำ อปสรรค และผลลัพธ ของกำรบรหำรจัดกำรประปำ
์
ี่
็
ู
หม่บ้ำน และเพื่อน ำเสนอเปนแนวทำงในกำรพัฒนำระบบประปำหม่บ้ำนให้เกิดประสทธภำพกับ
ิ
ู
ิ
ชมชนยิ่งๆข้นไปในอนำคต
ุ
ึ