Page 3 - ศาสนาพุทธ
P. 3

พระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดาเอกของโลก แต่มีพราหมณ์หนุ่มคนหนึ่งในคณะพราหมณ์เหล่านั้น ชื่อ"โกณฑัญญะ"ได้

               ท่านายพระลักษณะยืนยันว่ามีคติเพียงอย่างเดียว โดยท่านายว่า เจ้าชายสิทธัตถะนี้จะต้องเสด็จออกผนวช และ

               จะต้องได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน

                       ครั้นถึงวันที่ ๗ นับแต่วันประสูติ พระนางมหามายาพระราชชนนีก็เสด็จสวรรคตเจ้าชายสิทธัตถะจึงอยู่ใน

               ความอภิบาลของพระนางปชาบดีโคตมี ผู้เป็นพระมาตุจฉา(พระน้านาง)ของพระองค์ ซึ่งได้ทรงเป็นพระมเหสีของ

               พระเจ้าสุทโธทนะสืบต่อมา



                    ทรงศึกษาและอภิเษกสมรส เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะทรงเจริญวัยแล้ว ก็ทรงได้รับการศึกษาศิลปวิทยาการต่างๆ


               ตามแบบกษัตริย์ในสมัยนั้น โดยพระราชบิดาได้ทรงมอบให้ครูวิศวามิตร ผู้มีชื่อเสียงที่สุดในเวลานั้น เป็นผู้รับภาระ

               ถวายการศึกษาอบรมเจ้าชายสิทธัตถะทรงมีพระปรีชาเฉลียวฉลาดยิ่ง สามารถจบการศึกษาอบรมแต่เมื่อมีพระ

               ชนม์เพียง ๑๕ พรรษา น่าความปรีดาปราโมทย์มาสู่พระราชบิดา พระประยูรญาติ พระอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง เมื่อ

               พระชนม์ได้ ๑๖ พรรษา ได้ทรงอภิเษกสมรสกับ เจ้าหญิงพิมพา หรือยโสธรา พระราชธิดาพระเจ้าสุปพุทธะ

               กษัตริย์โกลิยวงศ์แห่งกรุงเทวทหะ พระราชพิธีได้จัดขึ้น ณ กรุงกบิลพัสดุ์ ท่ามกลางพระประยูรญาติทั้ง ๒ ฝ่าย

               ภายหลังจากการอภิเษกสมรส ได้ทรงด่ารงพระยศเป็นรัชทายาท แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ พระราชบิดาทรงสร้างปราสาท

               ใหม่ให้ประทับ ๓ หลัง เพื่อทรงส่าราญตลอด ๓ ฤดูกาลทรงเพียบพร้อมด้วยโลกิยสุขอยู่จนพระชนมายุได้ ๒๙

               พรรษา และพระนางพิมพาพระวรชายาก็ทรงพระครรภ์ในปีนั้น



                    ทรงผนวช ในปีที่ทรงพระชนมายุได้ ๒๙ พรรษานั้นเอง เจ้าชายสิทธัตถะผู้เป็นรัชทายาทได้เสด็จประพาสพระ

               ราชอุทยาน ๔ ครั้ง ได้ทอดพระเนตรเห็น คนแก่ คนเจ็บไข้ คนตาย และสมณะ ตามล่าดับ ในการเสด็จประ พาส ๓

               ครั้ง พระองค์ทรงสลดพระทัยในความทุกข์ยาก และความไม่เที่ยงแท้ ความผันแปรของชีวิต ในครั้งที่ ๔ อัน เป็น

               ครั้งสุดท้ายนั้นเอง พระองค์ทรงทราบว่าพระนางพิมพา พระวรชายาของพระองค์ได้ประสูติพระโอรส และทรง

               ตัดสินพระทัยเสด็จออกทรงผนวชในคืนวันนั้น โดยทรงม้ากัณฐกะ มีนายฉันนะ เป็นผู้ตามเสด็จบ่ายพระพักตร์สู่

               แคว้นมคธตอนใต้ พอเวลาใกล้รุ่งก็เสด็จถึงแม่น้่าอโนมาเข้าสู่ฝั่งของแคว้นมัลละพรมแดนแห่งสักกะกับแคว้นมัลละ


               เสด็จข้ามแม่น้่าอโนมาเข้าสู่ฝั่งของแคว้นมัลละประทับยับยั้งอยู่ที่ฝั่งแม่น้่านั้น ทรงตัดพระเมาลีของพระองค์ด้วย
               พระขรรค์ แล้วทรงอธิฐานเพศบรรพชิตทรงผนวชเป็นสมณะ ณ ฝั่งแม่น้่านั้น แล้วตรัสสั่งนายฉันนะ ให้น่าม้า
   1   2   3   4   5   6   7   8