Page 6 - ศาสนาพุทธ
P. 6

แสดงอนัตตลักขณสูตรโปรดท่านทั้ง ๕ ในวันนั้น จึงนับเป็นพระอรหันต์เกิดขึ้นในโลก รวมทั้งพระพุทธ องค์ด้วย

               เป็น ๖ องค์



                       ทรงโปรดชาวเมืองพาราณสีต่อมา เมื่อประทับจ่าพรรษาอยู่ที่ป่าอิสิปนะมฤคทายวัน อันเป็นพรรษาแรก

               นั้นเอง พระพุทธองค์ก็ได้ทรงแสดงอนุปทาพิกถาโปรดกุลบุตรชื่อ "ยสะ" ซึ่งเป็นบุตรเศรษฐีชาวเมืองพาราณสีให้ได้
               บรรลุ พระอรหันตตผล ส่าเร็จเป็นพระอรหันต์ ได้อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา นับเป็นพระอรหันต์องค์ที่ ๗

               ในโลก ทั้งได้ทรงแสดงโปรดเศรษฐีบิดาพระยสะให้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ได้ประกาศตนเป็นอุบาสก และ

               นับเป็นอุบาสกคนแรกในพระพุทธศาสนาที่ถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ทั้งได้โปรดมารดาและภรรยาของท่านยสะ
               ให้เลื่อมใส ได้ประกาศตนเป็นอุบาสิกา ซึ่งเป็นอุบาสิกาคู่แรกในพระพุทธศาสนาที่ถือพระรัตนตรัยเป็นสรณะ ต่อแต่

               นั้นมา ๒-๓ วัน พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมโปรดบุตรเศรษฐีเมืองพาราณสี ผู้เป็นสหายของท่านยสะทั้ง ๔ คน

               ชื่อ วิมละ สุพาหุ ปณณชิ และควัมปติ ให้ส่าเร็จเป็นพระอรหันต์ ได้อุปสมบทด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา นับเป็นพระ
               อรหันต์ในโลกจ่านวน ๑๑ องค์ ต่อมาอีกไม่นานนัก สหายของท่านยสะซึ่งเป็นชาวชนบทจ่านวน ๕๐ คน ก็ได้บวช

               ตามยสะ พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดให้ส่าเร็จเป็นพระอรหันต์ได้อุปสมทบด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทาทั่วทุก

               องค์ นับจ่านวนพระอรหันต์ในโลกเพิ่มขึ้นเป็น ๖๑ องค์


                      ทรงส่งพระสาวกไปประกาศพระพุทธศาสนา เมื่อมีพระอรหันต์สาวกจ่านวนมากถึง ๖๐ องค์ และเวลานั้น

               ก็ได้สิ้น ฤดูฝนแล้ว พระพุทธองค์ทรงเห็นว่าเป็นโอกาสดี สมควรส่งพระสาวกไปประกาศพระพุทธศาสนาแล้วจึง มี
               พระพุทธด่ารัสสั่งพระอรหันต์สาวก ให้ไปจาริกในที่ต่างๆ เพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน โดยให้แยกย้ายกันไป มิให้

               ไปรวมกัน ให้ไปแสดงธรรมประกาศพระพุทธศาสนาให้แพร่หลาย ส่วนพระองค์เองก็จะเสด็จไปยังต่าบลอุรุเวลา

               กรุงราชคฤห์ เพื่อประกาศพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกัน


                       ทรงโปรดภัททวัคคีย์และชฎิล เมื่อทรงส่งพระสาวกออกจาริกไปแล้ว พระพุทธองค์จึงเสด็จไปยัง ต่าบลอุรุ

               เวลาแต่เพียงพระองค์เดียว ระหว่างทางได้เสด็จแวะเข้าไปพักผ่อนที่ไร่ฝ้ายแห่งหนึ่ง ณ ที่นี้ พระองค์ได้ทรงพบ ชาย
               หนุ่มจ่านวน ๓๐ คน เป็นสหายกันเรียกว่า ภัททวัคคีย์ ซึ่งได้พากันออกติดตามหาภรรยาของหนุ่มคนหนึ่งที่ได้ขโมย

               ของหนีไป พระพุทธองค์จึงตรัสเตือนว่า จะตามหาหญิงหรือตนเองดี แล้วทรงแสดงธรรมโปรดให้บรรลุมรรคผล

               ประทานเอหิภิกขุอุปสัมปทา (คือ การบวชให้ด้วยพระองค์เอง ด้วยการตรัสว่า จงมาเป็นภิกษุเถิด) แล้วทรงส่งไป
               ประกาศพระพุทธศาสนาทั้ง ๓๐ องค์



                      หลังจากที่ทรงโปรดพวกภัททวัคคีย์แล้ว ตอนบ่ายวันนั้นพระพุทธองค์ก็เสด็จจากไร่ฝ้าย พอเวลาพลบค่่าก็
               เสด็จถึงต่าบลอุรุเวลาริมฝั่งแม่น้่าเนรัญชรา ณ ต่าบลนี้พระองค์ได้ทรงโปรดชฎิล ๓ พี่น้องที่ตั้งอาศรมบ่าเพ็ญ พรต

               อยู่ที่ต่าบลนี้ คือ ชฎิลผู้พี่ใหญ่ ชื่อ อุรุเวลกัสสป น้องคนกลางชื่อ นทีกัสสป น้องคนเล็กชื่อ คยากัสสป คุมบริ วาร
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11