Page 241 - เมืองลับแล(ง)
P. 241

ได้อธิบายถึง “พระญาใต้เจ้าสามตนเป็นใหญ่สะหรีโยธิยา” ตรงกับ สมเด็จพระบรมราชาธิราช ที่ ๒

                                                                                    27
               (เจ้าสามพญา) ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่เรียกว่า “พระญาใต้” หรือ “พระญาบอร”   ครองราชย์ พ.ศ. ๑๙๖๗
                                                    ์
               – ๑๙๙๑ หลังจากที่ท้าวลกพระราชโอรสองคที่ ๖ ของพระญาสามฝั่งแกนได้เข้าชิงราชสมบัติและราชาภิเษกท ี่
               เมืองเชียงใหม่ใน พ.ศ. ๑๙๘๕ ทรงพระนามว่า “พระญาสรีสุธัมมติโลกราชะ” หรือ “พระญาติโลกราช”
                                                                                                        28
               เป็นกษัตริย์องค์ที่ ๙ แห่งราชวงศ์มังราย แล้วได้ส่งพระญาสามฝั่งแกน (พระราชบิดา) ไปอยู่เมืองสาด เมื่อทาว
                                                                                                       ้
               ช้อย (ท้าวสิบ – พระราชโอรสองค์ที่สิบ) ผู้ครองเมืองฝางรู้ข่าวดังนั้นก็ได้ไปเชิญพระญาสามฝั่งแกนมาประทับท ี่

                                        ์
                                                                                                ้
               เมืองฝาง แล้วมีความประสงคจะชิงราชสมบัตถวายพระราชบิดาดังเดิม ซึ่งหมื่นคืยหานแตทอง (เจาเมืองนคร
                                                     ิ
                                                                                         ่
                                                                                           ้
               ลำปาง) จะไปเชิญพระญาสามฝั่งแกนจากเมืองสาด เมื่อไปถึงเมืองสาดก็ไม่พบพระญาสามฝั่งแกน จงทราบว่า
                                                                                                 ึ
                                                                                              ิ
               ท้าวช้อยได้เชิญพระญาสามฝั่งแกนไปอยู่เมืองฝาง หมื่นลกสามล้านได้นำทัพไปยังเมืองฝางจึงเชญพระญาสาม
               ฝั่งแกนกลับมายังเมืองเชียงใหม่ แต่ท้าวช้อยได้หนีไปยังเมืองเทิงแล้ว โดยมีหมื่นเชริงสามไขรหานเป็นเจาเมือง
                                                                                                    ้
               เจ้าเมืองเทิงได้แต่งหนังสือไปให้สมเดจพระบรมราชาธิราช ที่ ๒ ยกทัพมาช่วย หมื่นเชริงสามไขรหานไดรบกับ
                                                                                                    ้
                                              ็
                                                                                         29
               ทัพของหมื่นลกสามล้านจนพ่ายแพ้และถูกตัดหัวลอยแพไปยังทัพของฝ่ายอโยธยา  ตรงกับ พระราช
               พงศาวดารฯ ฉบับหลวงประเสริฐอักษรนิติ์ ว่า “ศักราช ๘๐๔ (พ.ศ. ๑๙๘๕) สมเด็จพระบรมราชาธีราชเจา
                                                                                                        ้
               เสด็จไปเอาเมืองเชียงใหม่ แลเข้าปล้นเอาเมืองมิได้ พอทรงประชวรแลทัพหลวงเสด็จกลับคืน”
                                                                                             30
                                                                                              ่
                       เมื่อพิจารณาจากตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ไม่พบว่ามีการเอ่ยชื่อเจ้าเมืองเทิงว่า “ขุนแส” ตามตำนาน
               พระเจ้ายอดคำทิพย์เลย บอกแต่ชื่อว่า “หมื่นเชริงสามไขรหาน”


               เนื้อความที่ ๑๑



                 ตนพระยาไตรโลกะนารทเข้าบำราบนั่งเวียง พระญายุธิถิระตนนั่งเวียงเชลียง  เอาใจออกห่างหักค่ายกม
                                                                                                        ุ
                 พลชายหาญขึ้นนบไหว้ยังพระญาติโลกะมหาราชาเจ้าฟ้าฮ่ามตนเจ้าช้างเวียงพิงคณที ฝ่ายตนเป็นใหญ  ่

                 เวียงไธยใต้หล้าสะหรีโยธิยาไตรโลก ขึงโขดโกธาสั่งตัดหัวเจ้ากรมการเวียงนับสิบ แลสั่งพลชายหาญล่า

                 ขึ้นตามตีเข้าเขตแคว้นแดนพระเจ้าเชียงใหม่ แต่บ่ทันหนีแตกคืน


                       ได้อธิบายถึงเมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถได้ครองราชย์ที่กรุงศรีอยุธยาเมื่อ พ.ศ. ๑๙๙๑ ในช่วง

                                                                                                    ี
                                      ิ
               นั้นตำนานพระเจ้ายอดคำทพย์ได้บอกว่า “พระญายุธิถิระตนนั่งเวียงเชลยง” ซึ่งตามตำนานพื้นเมืองเชยงใหม่
                                                                           ี

                       27  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๙ หน้า ๖๒.
                       28  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๙ หน้า ๖๐.

                       29  ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ ฉบับ เชียงใหม่ ๗๐๐ ปี, ๒๕๓๙ หน้า ๖๑ – ๖๒.
                       30  ประชุมพงศาวดารฉบับกาญจนาภิเษก เล่ม ๑, กรุงเทพฯ : กองวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร,
               ๒๕๔๒, หน้า ๒๑๔.

                                             การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
                                                        หน้า ๙๑
   236   237   238   239   240   241   242   243   244   245   246