Page 244 - เมืองลับแล(ง)
P. 244
๖ (เหนือ) ซึ่งจะตรงกับเดือน ๔ ของไทยใต้ แสดงว่ากองทัพล้านนาใช้เวลาในการเดินทางมาถึงบริเวณเมือง
ซาก (สระหนองหลวง) ประมาณ ๒ เดือน ซึ่งการนับเดือนทางจันทรคติของล้านนาจะเร็วกว่าทางไทยใต้ ๒
เดือน
ั่
ี
ตำนานพระเจ้ายอดคำทิพย์ได้บอกว่า กองทัพได้มาถึง “ยามตะวันลับลงแลง ฟ้าฮ่ามแดงดงสผาบันธุ
้
กัมพะอินตา” จากนั้นพระญาแก้วกุ้มหล้าก็ได้นำพลสู้รบกับทัพล้านนาเป็นเวลา ๒ วัน ชาวเมืองก็ล้มตายไป
มาก
เนื้อความที่ ๑๔
ฝ่ายตนองค์ฅำพระญาเชียงใหม่ก็มีใจอิ่นดูขูณาด้วยชาวพาราใหญ่น้อยทั้งหลายก็ล้วนด้วยสืบสายเครือ
่
เชื้อชาวโยนเถิงกัน ด้วยว่าแล้วชาวพาราทั้งหลายลุกมาแต่เวียงเชียงรายหนเหนือ แลเวียงละกอร มอน
ข้าง นับแต่ถูกม้างกวาดเทลงมา
เป็นการอธิบายถึง พระญาติโลกราชได้ทราบว่าชาวเมืองนี้เป็น “ชาวโยน” (โยนก) มาเหมือนกัน ซึ่ง
ได้มาจากเมืองเชียงราย และ “เวียงละกอร” คือ เมืองเขลางค์นคร (ลำปาง) ล้วนเป็นญาติกันทั้งสิ้น
เนื้อความที่ ๑๕
้
ี
ุ
่
ุ
จึ่งสั่งหมื่นดงเจ้าเมืองละกอรแตงพลเศิกดาบให้มั่นนับได้ ๕๐ คน ตีฝ่าหักด่านกมเวยงเข้าโจมจับกมเอา
เจ้าแก้วกุ้มหล้าแลญาติวงศามากระทำสัตย์สาบานสืบเชื้อเครือสาย เดือน ๖ เหนือ เป็ง ๑๓ ค่ำ ก็เข้าได ้
เวียง
่
้
่
เป็นการกล่าวถึง พระญาติโลกราชไดสั่งให้หมื่นด้ง เจ้าเมืองเขลางค์นคร(ลำปาง) ได้ตีฝาดานเข้าเมือง
้
จากนั้นได้จับกุมตัวเจ้าเมืองคือ “พระญาแก้วกุ้มหล้า” มากระทำสัตย์สาบานหรือเป็นการเจรจาสงบศึก แลว
พระญาติโลกราชได้เข้าเวียงใน “เดือน ๖ เหนือ เป็ง ๑๓ ค่ำ” คือ วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ (เหนือ) ตรงกับเดือน
๔ ของไทยใต ้
้
เป็นที่น่าสังเกตถึงประเพณทองถิ่นของเมืองลบแลคอ “ประเพณีแห่น้ำขึ้นโฮงสรงน้ำเจาฟ้าฮ่าม” จัด
ื
ี
้
ั
38
ขึ้นในวันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๖ (ใต้) ของทุกปี มีความสอดคล้องกับตอนที่พระญาติโลกราชเสด็จเข้าเมือง
ิ
ิ
38 ดาบฟ้า ไชยลับแลง และภัทรภูมินทร์ ชัยชมภู, ประเพณแห่นำขึ้นโฮงเมืองลับแลง, เชียงใหม่ : มูลนธสืบสาน
ี
้
ล้านนา โครงการปลูกใจเมือง (Spark U Lanna) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ๒๕๖๑, หน้า ๑๐.
การวิเคราะห์วรรณกรรมเมืองลับแล
หน้า ๙๔