Page 495 - เมืองลับแล(ง)
P. 495

แต่ในการสำรวจศึกษาทางภูมิวัฒนธรรมของเมืองโบราณสมัยสุโขทัยของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าเสนอว่า
                                                                                  ู
               เมืองสระหลวงคือเมืองทุ่งยั้งเพราะอยู่ในตำแหน่งภูมิศาสตร์การเมืองของเมืองค่ขนานที่เป็นเมืองบนลำน้ำยม
               และลำน้ำน่านชัดเจน เมืองคู่ขนานทั้ง ๔ ที่กล่าวมา สะท้อนให้เห็นจากศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ ๒ ว่าสมเดจ
                                                                                                        ็
               พระมหาเถรศรีศรัทธาจุฬามณีเกิด “ในนครสระหลวงสองแคว ปู่ชื่อพระยาศรีนาวนำถุมเป็นขุนเป็นพ่อเสวย

               ราชย์ในนครสองอัน อันหนึ่งชื่อนครสุโขทัย อันหนึ่งชื่อ นครศรี เสชนาไล” และในศิลาจารึกหลักที่ ๘ กลาวถึง
                                                                                                     ่
               เมืองต่าง ๆ ในสมัยนั้นว่า “ชาวสระหลวงสองแคว ปากยม พระบาง ชากังราว สุพรรณภวา นครพระชุม” ซึ่ง
               ในจารึกหลักที่ ๒ และหลักที่ ๘ ซึ่งกล่าวมาข้างต้น ล้วนอยู่ในสมัยสุโขทัยตอนต้นมาจนถึงรัชกาลพระมหาธรรม

               ราชาที่ ๑ เป็นช่วงเวลาที่ไม่ได้พูดถึงเมืองทุ่งยั้ง แต่ชื่อเมืองทงยั้งมาปรากฏในสมัยสุโขทัยตอนปลาย ราวรัชกาล
                                                                ุ่
               พระมหาธรรมราชาที่ ๓ แต่ครั้งพุทธศตวรรษที่ ๒๐-๒๑ ลงมา ในการศึกษาทางภูมิวัฒนธรรมของเมืองโบราณ
                                                                                             ั้
                                                                                                 ่
               คู่ขนานทั้ง ๔ ทำให้เราเห็นความชดเจนเรื่องอาณาบริเวณการสร้างบ้านแปงเมืองของสุโขทย ตงแตรัชกาลพ่อ
                                           ั
                                                                                          ั
               ขุนศรีอินทราทิตย์และพ่อขุนรามคำแหงลงมาจนถึงสมัยพระมหาธรรมราชาที่ ๑ ว่าอาณาบริเวณภายในทเป็น
                                                                                                      ี่
               แกนกลางของรัฐสุโขทัยตอนต้นนั้น อยู่ระหว่างลุ่มน้ำยมกับลุ่มน้ำน่าน ตั้งแต่เขตจังหวัดอุตรดิตถ์ลงมาจนถึง
               สุโขทัยและพิษณุโลก เป็นบริเวณที่อยู่ในกรอบเมืองคู่ขนานทั้ง ๔ คือ เมืองศรีสัชนาลัยบนลำน้ำยมทางด้าน
               ตะวันตกและเมืองทุ่งยั้งบนลำน้ำน่านทางฝั่งตะวันออก ทั้งลำน้ำยมและลำน้ำน่านที่เป็นเมืองคขนานนี้ มีทราบ
                                                                                                      ี่
                                                                                            ู่
               ลุ่มน้ำท่วมถึงที่เรียกว่า “ทุ่ง” อยู่ระหว่างกลาง แต่พอมาถึงบริเวณเมืองสุโขทัย ลำน้ำยมที่ไหลคู่ขนานกับลำน้ำ
               น่านมายังเมืองพิษณุโลกนั้น ไหลคดโค้งวกไปทางตะวันออก ผ่านอำเภอกงไกรลาศมายังเขตท้องทุ่งนาของ
               แม่น้ำน่าน และไหลวกลงใต้ ไปประชิดกับแม่น้ำน่านก่อนถึงเมืองพิจิตร จนไม่แลเห็น ที่ราบลุ่มระหว่างลำน้ำ
               คู่ขนาน ดังเช่นตั้งแต่พิษณุโลกและสุโขทัยขึ้นไปยังอุตรดิตถ์ โดยย่อก็คือไม่มีบริเวณที่มีคู่ขนานแต่ว่ามีเมือง
               คู่ขนานใหม่ขึ้นมาแทน คือ เมืองพิจิตรกับเมืองกำแพงเพชร แต่ไม่ใช่เป็นเมืองคู่ขนานระหว่างเมืองบนฝงแม่น้ำ
                                                                                                    ั่
               น่านกับลำน้ำยมดังเดิม หากเป็นระหว่างเมืองพิจิตรของแม่น้ำปิงแทน ในการศึกษาทางประวัติศาสตร์
               โบราณคดีของข้าพเจ้าพบว่า ทั้งเมืองพิจิตรและเมืองกำแพงเพชรคือเมืองของอาณาจักรอยุธยา ทเกิดจากการ
                                                                                               ี่
               ขยายอำนาจของอยุธยาแต่สมัยรัชกาลสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๑ (ขุนหลวงพะงั่ว) ลงมาจนถึงรัชกาล
               สมเด็จพระนครินทราธิราช จนถึงรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถซึ่งเรื่องนี้บรรดานักประวัติศาสตร์

               โบราณคดีหลายท่านเห็นด้วยเพราะฉะนั้นการที่กำหนดเอาเมืองสระหลวงอยู่ฝั่งตะวันตกของลำน้ำน่าน ฝั่งตรง
                                                                                                        ื
               ข้ามกับเมืองสองแคว โดยมีระยะห่างกันเพียงลำน้ำคั่นกลางเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ เพราะความจริงก็คอ
               เมืองสองแควกับเมืองพิษณุโลกคือเมืองเดียวกัน โดยที่เมืองสองแควทางฝั่งตะวันออกเป็นเมืองเดิมที่มีมา
               ตอนต้นสมัยสุโขทัย พอมาถึงสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงมีการขยายเมืองจากทางฝั่งตะวันออกมา

               ครอบคลุมฝั่งตะวันตกด้วย ทำให้กลายเป็นเมืองอกแตก แล้วก่อกำแพงสร้างป้อมปราการแบบตะวันตก พร้อม
               กับให้ชื่อใหม่ว่า พิษณุโลก ซึ่งชื่อเมืองดงกล่าวได้ความคิดมาจากชื่อ วิษณุโลก อันเป็นชอของปราสาทนครวัด
                                                ั
                                                                                        ื่
               ในอาณาจักรเมืองพระนคร ที่สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๒ (เจ้าสามพระยา) พระราชบิดาของสมเด็จพระ
               บรมไตรโลกนาถยกทัพไปตีเป็นเมืองขึ้นของกรุงศรีอยุธยา







                                       การศึกษาเปรียบเทียบสมมุติฐานเมืองซาก (ทราก) ฯ
                                                          หน้า ๙
   490   491   492   493   494   495   496   497   498   499   500