Page 54 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 54
เมืองลับแลหลังเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. ๒๓๑๐
ในศกคราวเสียกรงศรอยธยา พ.ศ. ๒๓๐๘ มหาราชวงษ์พงศาวดารพม่า กล่าวว่า นำโดย
ึ
ุ
ี
ุ
ี
ุ
ึ่
มหานรทาเป็นแม่ทัพนำทัพมาทางเมืองทวาย (เส้นทางตะวันตกมุ่งเข้าสู่กรงศรอยธยา) อีกฝ่ายหนงมี
ุ
สีหะปะเต๊ะเป็นแม่ทัพทำสงครามจัดการหัวเมืองทางเส้นเหนือจากเมืองเชียงใหม่ เมืองนครลำปางไล่ลง
มาทางใต ้
ั
ผู้รกษาหัวเมืองรายทาง คือ เมืองบ้านตาก เมืองระแหง เมืองกำแพงเพชร เมืองสวรรคโลก
ั
เมืองสุโขทัย เมืองรตสมา (ศรสำโรง) เมืองพษณุโลก เมืองพไชย เมืองลับแล เมืองนครสวรรค์ เมือง
ิ
ี
ิ
ู
ี
้
อ่างทอง เมื่อไดทราบว่าฝ่ายพม่ายกทัพมาก็เตรยมจัดการกำแพงเมืองและค่ายคูประตหอรบทุกเมือง
หากเมืองใดอ่อนน้อมต่อฝ่ายพม่าก็ให้สวามิภักดิ์แล้วตั้งค่ายหลวงที่เมืองพิษณุโลก ๑๐ วัน
ั
จึงมีการจัดทัพออกเป็น ๒ ทัพคือ ศิรินนทสังจัน กับ จอของจอสู ได้ไปตีเมืองลบแล เมืองพิไชย
ั
ิ
เมืองธาน เมืองพจิตร เมืองนครสวรรค์ เมืองอ่างทอง ซึ่งบรรดาผู้รกษาเมืองดังกล่าวนเห็นว่าไม่อาจ
ั
ี
ี้
ิ
ต่อสู้รบได้จึงขอสวามิภักดิ์ ทั้งสองแม่ทัพจึงให้เจ้าเมืองลับแล เมืองพิไชย เมืองธานี เมืองพจิตร เมือง
นครสวรรค์ เมืองอ่างทอง ถือน้ำพิพัฒสัจจา แล้วให้เป็นผู้รกษาเมืองเหล่านั้นต่อไป เพื่อให้จัดกองกำลัง
ั
๊
เพอสนบสนนทัพหลวงของสีหะปะเตะที่เมืองพิษณุโลก แล้วให้หัวเมืองฝ่ายเหนอจัดทัพของแตละเมือง
ั
่
ุ
ื่
ื
ุ
ี
ื
ุ
ี
เป็น ๑๓ ทัพ แล้วยกพลไปตีกรุงศรอยธยาทั้งทัพบกและทัพเรอเข้าตีกรุงศรอยธยาพร้อมกับมหานรทา
จนกระทั่งกรุงศรีอยุธยาเสียแก่พม่าเมื่อ เดือน เมษายน พ.ศ. ๒๓๑๐
16
16 มหาราชวงษ์พงศาวดารพม่า. หน้า ๓๑๑ – ๓๒๓.
เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
หน้า ๔๒