Page 776 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 776
ที่สุดคือตำบลแม่พูล โดยมีการจัดการปกครองส่วนท้องถิ่นคือ องค์การบริหารส่วนตำบลแม่พูลและมีเทศบาลตำบล
หัวดงเป็นไข่แดงอยู่ตรงกลางเช่นในปัจจุบัน
๔. รายนามผู้ปกครองเมืองด่านนางพูน ตำแหน่งผู้ว่าราชการเมือง มีบรรดาศักดิ์เป็น “หลวง” และ
“พระ”(ถือศักดินา ๑๐๐๐ ไร่) ดังนี้
๑. หลวงวิชิตคีรีแสนหลวง พ.ศ. ๒๔๑๗ - ๒๔๒๐
๒. พระวิเชียรคีรี/พระวิชิตคีรี(หลวงโยธาภักดี) พ.ศ. ๒๔๒๐ - ๒๔๓๖
๔. หลวงวินิจจำนง (ผู้รักษาราชการเมือง) พ.ศ. ๒๔๓๖ - ๒๔๔๑
๕. พระวิชิตคีรี (หลวงคลังกรมการ) พ.ศ. ๒๔๔๑ – สันนิษฐานก่อนปี พ.ศ. ๒๔๔๔
และภายหลังจากถูกยุบเข้าร่วมกับอำเภอลับแล ปรากฏผู้ปกครอง ตำแหน่งกำนัน มีบรรดาศักดิ์เป็น
“ขุน” ศักดินา ๔๐๐ ไร่ ดังนี้
๑. ขุนพูลพูลปกรณ ์ กำนันตำบลแม่พูล
๒. ขุนห้วยใต้หิตกิจ กำนันตำบลห้วยใต ้
๓. ขุนพันแหวน กำนันตำบลบ้านพันแหวน
อนึ่ง ขุนพูลพูลปกรณ์ กำนันตำบลแม่พูล มีพี่ชายคนโตคือขุนวารีริศธำรงค์ อดีตกำนันตำบลน้ำริด (ในอดีต
ตำบลน้ำริดอยู่ในเขตการปกครองของอำเภอลับแล ก่อนจะถูกย้ายเข้ากับอำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ใน พ.ศ.
๒๔๙๕อย่างเช่นปัจจุบัน) ขุนพูลพูลปกรณ์ผู้นี้ สมชาย เดือนเพ็ญ ให้ความเห็นว่าน่าจะเป็นผู้สืบเชื้อสายชนชน
ั้
ผู้ปกครองของเมืองด่านนางพูนตั้งแต่ก่อนถูกยุบรวมเข้ากับอำเภอลับแล
จากหลักฐานข้างต้นทำให้สามารถกล่าวได้ว่า “ด่านนางพูน” แต่เดิมมีสถานภาพเป็นเพียง ชุมชนด่าน
ด่านหนึ่งของเมืองลับแล และได้รับการยกฐานะเป็น “เมืองด่านนางพูน” เมืองซึ่งขึ้นอยู่ในความปกครองของสยาม
ในสมัยรัชกาลที่ ๕ ดำรงสถานภาพความเป็นเมืองได้ไม่นาน ก็ถูกผนวกรวมกับเมืองทุ่งยั้งและเมืองลับแล จน
กลายเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอลับแลในช่วงการปฏิรูปการปกครองของสยามนั่นเอง
เมืองด่านนางพูน
หน้า ๔๘