Page 86 - หนังสือเมืองลับแล(ง)
P. 86
ี่
ิ
ั่
ิ
์
กระบวนม้าพระที่นงเยยมชมวัดพระแท่นศลาอาสน วันที่ ๑๗ พฤศจิกายน เสด็จพระราชดำเนนโดย
ั้
กระบวนม้าพระที่นั่งถึงตำบลบ้านดาน(นาขาม) หลังจากนนเสดจโดยกระบวนช้างพระที่นั่งถึงตำบลปาง
่
็
ั
ต้นผึ้ง วันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ประทับพกร้อนที่ตำบลห้วยไร่ เมืองแพร่ จากนนจึงเสด็จพระราชดำเนน
ั้
ิ
ไปในเมืองแพร
่
61
สมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร (รัชกาลที่ ๖) ได้เสด็จมาถึง
62
เมืองลับแล เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๕๐ ดังน ี้
เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ข้าพเจ้าได้ไปเที่ยวที่ลับแล ออกจากที่พักที่อุตรดิตถ์
ิ
ขี่ม้าไปทางบ้านท่าอิฐ เดินตามถนนอนทใจมีไปเมืองลับแล พระศรพนมมาศได้จัด
ี
ี้
แต่งที่พักไว้ที่ตำบลม่อนชิงช้า ที่ริมที่พักน หลวงศรีพนมมาศกับราษฎร แลราษฎรได ้
เรี่ยไรกันสร้างโรงเรียนขึ้นโรงหนึ่ง ซึ่งขอให้ข้าพเจ้าเปิด ข้าพเจ้าไดเปิดให้ในเวลาบ่าย
้
วันที่ ๑๙ กุมภาพนธ์นน และให้นามว่า “โรงเรียนพนมมาศพิทยากร” แล้วได้เลย
ั
ั้
ี้
ี
ออกไปที่เขาม่อนจำศล บนยอดเขานแลดูเห็นที่แผ่นดินโดยรอยได้ไกล มีทุ่งนาไปจน
่
สุดสายตา แลเห็นเขาเป็นทิวเทือก ซ้อนสลับกันเป็นชน ๆ ราวกับกำแพงนาดูหนก
ั
ั้
หนา
ิ่
รุ่งขึ้น เช้าวันที่ ๒๐ กุมภาพนธ์ ข้าพเจ้ากับพวกที่ไปด้วยกันไดชวยกันเรมถม
่
้
ั
้
ิ
ู่
้
ทำนบปิดลำนำซึ่งอยรมม่อนชงชา เป็นความคิดของหลวงศรีพนมมาศจับทำฝาย
ิ
ตอไป เหมืองฝายในเขตลับแลน หลวงศรีพนมมาศได้จัดทำขึ้นไว้มากแล้ว เป็น
่
ี้
่
้
ิ
้
ประโยชนในการเพาะปลูกมาก เพราะมีนำใชตลอดปี ที่ลับแลบรบูรณ์มาก ทั้งไรนา
์
้
ี
่
ิ่
่
และสวนผลไม้ตาง ๆ หากินไดเสมอ นับว่าพระศรพนมมาศเป็นนายอำเภอดีอยางยง
คนหนึ่ง [ปัจจุบันเรียกว่า ฝายสมเด็จเจ้า]
้
เวลาบ่ายออกจากที่พักตำบลม่อนชิงชาขี่ม้าไปตามถนนพระแท่นเข้าเขตทุ่งยั้ง
ซึ่งบัดนรวมอยู่ในอำเภอลับแลแล้ว...
ี้
้
ื่
ิ
ั
สังเกตได้ว่าการเสด็จมาของสมเด็จฯ เจ้าฟามหาวชราวุธ (รชกาลที่ ๖) ในคราวนได้เรยกชอ
ี้
ี
ถนนสายอุตรดิตถ์-ลับแล จากเดิม “ถนนอินทคีรี” เป็น “ถนนอินทใจมี” แล้ว
61 ลิลิตพายัพ.
62 เที่ยวเมืองพระร่วง. หน้า ๑๓๙ – ๑๔๐.
เมืองลับแล(ง) ประวัติศาสตร์และข้อค้นพบใหม่
หน้า ๗๔