Page 4 - 1
P. 4

  คงจะเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ที่กําลังสั่งสอนอยู่ในปจัจุบันนี้ผมไม่รู้ ด้วย เพราะผมไม่รู้จัก
ทําไมสมาธถิ งึ ไดเ้ สอื่ มสญู ได้ เพราะพวกเราทกุ คนยงั เปน็ ปถุ ชุ นอยู่ กเิ ลสมนั ยงั หนาอยู่ หนาบา้ ง บางบา้ ง ฉะนนั้ สมาธถิ งึ ไดเ้ สอื่ ม แตส่ มาธิ ตวั เดยี วกนั นนั่ เอง ถา้ เปน็ ผทู้ เี่ ปน็ อรยิ ชนประพฤตธิ รรมปฏบิ ตั ธิ รรม เขาทําทีเดียวเขาก็ได้ และเขาไดส้มาธิเขาก็คงอยู่ ไม่เสื่อม นั่นเพราะ เหตุไร เพราะพื้นของเขาสะอาดแล้ว เขาไม่ต้องมานั่งซักนั่งฟอก เหมือนอย่างพวกเราปุถุชน ฉะนั้นเราต้องรู้ ในเรื่องแง่นี้เสียก่อนว่า อะไรมันเป็นอะไร
ผมเคยบอกพวกเราทุกคนมาตั้งแตต่้นแล้วว่าสมถกรรมฐานนั้น เราอย่าหลง อย่าหลงว่ามันเป็นการให้ความสุข อย่าหลงว่าเราเป็นผู้ วิเศษ ไม่ใช่ สมาธินั้นเป็นเรื่องของธรรมชาติแห่งความสงบ เพียงชั่ว ขณะเท่านั้น ชั่วขณะอย่างไร ชั่วขณะเหมือนเอาหินไปทับหญ้า ยก หินออกเมื่อไร หญ้าก็คงอยู่เช่นนั้น ในเรื่องนี้พวกเราลองสังเกตดู เราจะมีเรื่องราวอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเรามีสติสามารถเข้าไปอยู่ในสมาธิ ตามขั้นต่างๆ ได้ ความสุขความสงบก็เกิดขึ้น แต่เราออกจากสมาธิ แล้ว ความยุ่งยากทั้งหลายก็คงจะติดตามมา เหมือนอย่างเดิมไม่ เปลี่ยนแปลง
นอกจากนี้แล้วเราควรจะรดู้้วยว่าการปฏิบัติสมาธินั้นบางคนไป ติดอยู่ในขั้นบางขั้นบางตอน นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะความที่เขา ไม่มีสติ ความหลงลืมสติ ในชีวิตของตัวไม่เคยได้รับความสุข ไม่เคย ได้รับความสงบ เมื่อไปยึดมั่นถือมั่นเสียแล้ว มันก็ติดอยู่ตรงนั้น ไม่ ต้องไปไหน เขาคิดหรือว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งถาวร พระพุทธเจ้าทรง สอนไว้แล้วว่าทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทําไมเราไม่ยึดตัวนี้เอาไว้ ถ้าเรา
    






























































































   2   3   4   5   6