Page 13 - สนทนาภาษาชาวบ้าน ตอนที่ 12 ทิฏฐุชุกัมมในกัมมฐาน
P. 13

 คือความรู้สึกตน ถ้าเราทําโดยขาดปัญญา โดยความยึดมั่นถือมั่นเสีย แล้ว มันก็ไปกันใหญ่
นี่เพียงกามฉันทนิวรณ์ตัวเดียว ทีนี้เราก็รู้กันแล้วว่ากามฉันท นิวรณ์ ที่ทีแรกเราคิดว่าเรารู้ดีเรียบร้อยแล้ว ปรากฏว่ามันยังขาดตก บกพร่องอีกตั้งมากมาย
ข.พยาปาทนิวรณ์คือความคิดร้ายความขัดเคืองแคน้ใจเราได้ ใช้ความเพียรละและป้องกันหรือเปล่า พยาปาทนิวรณ์ ได้แก่
๑. ความหยาบกระดา้ งแหง่ จติ นกึ ไหม ทําลายไปไดแ้ ลว้ หรอื ทําลายใหม้ นั ออ่ นละมนุ ละมอ่ ม สมควรแกก่ ารงานแลว้ หรอื
๒. ความรษิ ยา ความไมพ่ อใจในความสําเรจ็ ของคนอนื่ มี เกดิ ขนึ้ ในจติ ใจไหม ถา้ มแี มแ้ ตน่ อ้ ย มนั กอ็ ยใู่ นพยาปาทนวิ รณ์
๓. ความรําคาญ ความกินแหนงแคลงใจ มีไหม ที่เราอ้าง ว่าเราได้ประพฤติธรรมปฏิบัติธรรมอันสมควรแก่ธรรมนั้น สมบูรณ์ หรือเปล่า
ค. ถีนมิทนิวรณ์ คือความหดหู่และความเซื่องซึม ได้แก่
๑. ความท้อถอยในความอุตสาหะทางจิต มีหรือเปล่า ผมใช้ว่า ความท้อถอยในความอุตสาหะทางจิตนะ ไม่ใช่ตัวนะ ตัว อาจจะนั่งอยู่ตลอดวัน แต่จิตนั่งอยู่ไม่ถึง ๑๐ นาที แล้วมาบอกว่าฉัน นั่งอยู่ตั้งนานไม่มีผลเกิดขึ้น เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแบกเรื่องหาม เราบอก
กันมาแลว้ใช่ไหมว่าเป็นเรื่องการปฏิบัติงานทางใจ ก็ทําไมเราไม่จับจิตให้นิ่งอยู่จริงๆ ตัวเรานั่งอยู่ที่นี่ ส่วนจิต ไป
หกคะเมนตีลังกาอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ อย่างนี้ อ้างได้แต่คนโง่ๆ คนที่เขาให้

























































































   11   12   13   14   15