Page 8 - นิตยสารลูกประคบสมุนไพร
P. 8

การจัดการตราสินค้า   3                                                                         C
                                                                                                       H



                                                                                                       A



                                                                                                       P


                                                                                                       T



                                                                                                       E



                                                                                                       r

          ทฤษฎีตราสินค้า


             (Branding)                                                                                2



                                                         องค์ประกอบของตราสินค้า
                                                         เกรียงไกร กาญจนะโภคิน (2550) ได้กล่าวตราสินค้ามีองค์ประกอบส าคัญ
     ความหมายของตราสินค้า (brand)                        ดังน ี้
         ฟิลิป คอตเลอร์ ( 1991 อางถึงใน HRTOTHAI.,2551 : ออนไลน) ได้ให้
                         ้
                                                ์
                                                              - ส่วนที่จับต้องได้ (Tangible Assets) ได้แก่ รูปร่างหนาตา
                                                   ึ่
     ความหมาย ของค าว่าตราสินค้า คือ ชื่อ สัญลักษณ์ โลโก้ของอะไรอย่างหนงที่  (attributes) และคุณประโยชน( benefits)  ้
                                                                             ์
                                ็
                           ึ่
     จะบอกว่าสินค้าหรือบริการ อย่างหนง ๆ เปนของใคร และแตกต่างจากคู่แข่ง  - ส่วนที่จับต้องไม่ได้ ( Intangible Assets) ได้แก่ คุณค่า (values)
                                         ็
              ็
     อย่างไร ถ้าเปนตราสินค้าจะต้องสามารถ จ าแนกออกเปน 4 อย่างด้วยกัน   และ บุคลิกภาพ personality)
     ได้แก่                                              Brand DNA คือ ตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ที่ท าให้ผู้บริโภคเลือกแบรนด์
     1) Attribute – รูปร่างหน้าตาภายนอกที่จะท าให้เกิดการจดจ า  นน อย่างมีศรัทธาอาจเปนองค์ประกอบใดของแบรนด์ก็ได้ ระหว่าง
                                                           ั้
                                                                          ็
     2) Benefit - บอกคุณประโยชน์ เช่น ฟันขาว ผมนุ่ม      attributes/ benefits/ values/personality โดยขึ้นกับแต่ละตลาดและ
     3) Value - ท าให้รู้สึก ใช้แบรนด์นี้แล้วภาคภูมิใจ ไว้ใจเพราะมานาน  ประสบการณ์ของผู้บริโภค
     4) Personality - มีบุคลิกภาพ ใช้แล้วเป็นวัยรุ่น ใช้แล้วเป็นคนทันสมัย
                                                         Brand Architecture คือ พิมพ์เขียวของแบรนด์ เป็นระบบที่วางไว้ ว่าควร
                                                         จะ ใช้ชื่อแบรนด์อย่างไร ชื่อใดคือแบรนด์หลัก หรือแบรนด์แม่ (Umbrella
         เดวิด โอกิลวี่ ( 1995) กล่าวถึงตราสินค้าว่าเปนสัญลักษณ์ที่ซับซ้อน
                                      ็
     เปนการรวบรวม ความรู้สึกที่มีต่อรูปร่างหนาตาของสินค้า ต่อชื่อ ต่อบรรจุ  Brand) และชื่อใดคือ แบรนด์ลูก (Sub-brand) โดยแต่ละองค์กรต้อง
      ็
                                 ้
                                                         ก าหนดให้ชัดเจนว่าจะใช้แบรนด์หลักควบคู่กับ แบรนด์ลูกอย่างไร
                                                   ็
     ภัณฑ์ ต่อราคา ต่อความเป็นมา ชื่อเสียง วิถีทางโฆษณา ทั้งนี้ตราสินค้าจะเปน
                                                             Brand Identity หรือเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งหมายรวมถึงทุกสิ่งที่
                                               ั้
     สิ่งที่ก าหนดด้วยความรู้สึกของผู้บริโภคที่เปนผู้ใช้ตราสินค้านน และมี  ท าให้แบรนต์มีเอกภาพไปในทิศทางเดียวกันทั้งเอกลักษณ์ด้านภาพ เสียง
                                   ็
     ประสบการณ์กับตราสินค้านั้น                          และพฤติกรรม
     ดังนั้นการสร้างตราสินค้าจึงเกี่ยวข้องกับการรับรู้ และความรู้สึกของลูกค้าทั้ง
                                                                               ั
                                                             Brand Portfolio หรือ ฐานนดรของแบรนด์ คือการจัดสถานะของ
     จาก ภายในและจากลูกค้าภายนอก เป็นความพอใจ ความภาคภูมิใจ ความสุข  แบรนด์นน ว่าแต่ละแบรนด์อยู่ในฐานะอะไร ควรจะได้รับงบประมาณ
                                                               ั้
                                                   ั้
     ใจ ความมั่นใจ และ ความผูกพันที่มีต่อองค์กร บคคล สถานที่ ผลิตภัณฑ์นน
                                   ุ
                                     ี้
     ๆ เพราะความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากกลุ่ม ลูกค้าเหล่านจะเปนพลังขับเคลื่อนให้  สนับสนุนมาก-น้อยเพียงใด  ็
                                        ็
                                                             Brand  Equity  คือ มูลค่าของแบรนด์ที่สั่งสมเรื่อยมาจนกลายเปน
     พวกเขามีความจงรักภักดี และความปรารถนาที่จะมีส่วน ร่วม ปรารถนาที่จะ  มูลค่าเงินอน มหาศาล เพราะมีคนรู้จัก ยอมรับ อยากซื้อ อยากใช้เปน
                                                                 ั
                                                                                                      ็
                                                   ้
     ใช้ ปรารถนาที่จะบอกต่อให้คนอนเกิดความรู้สึกเช่นนเหมือนกันกับตน บาง
                                       ี้
                         ื่
     กลุ่มลูกค้าถือได้ว่าเป็นหัวใจหรือเป้าหมายสูงสุดขององค์กรที่ต้องการแสวงหา   ประจ า สิ่งส าคัญในการสร้างและรักษาตราสินค้าให้มีความแข็งแกร่ง และมี

     และ รักษาไว้ ถึงขนาดมีค ากล่าวที่ว่า Customer is a King ลูกค้าจะนาพา
                   ่
     รายได้ ก าไร ส่วนแบง การตลาด และเปายอดขายที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งทุก  อายุยืนยาว คือ องค์กรจะต้องสร้างเอกลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับตัวสินค้า
                                 ้

                                                         นาเสนอในสิ่งที่เหนอกว่าและ แตกต่างโดยยึดความส าคัญ และความ
                                                                      ื
       ่
     หนวยงานมีส่วนช่วยสร้างภาพลักษณ์จากกลุ่ม ลูกค้าทั้งภายในและภายนอก  ต้องการของลูกค้าเปนหลัก ด าเนนการปฏิบติตาม ข้อตกลงอย่างมั่นคง
                                                                                      ั
                                                                       ็
                                                                               ิ
                        ้
                     ็
     ไว้ด้วย ไม่เพียงเฉพาะเปนหนาที่งานของฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด หรือฝ่าย
                                                                        ี
     ประชาสัมพันธ์เท่านั้น                               และไม่เปลี่ยนแปลง อกทั้งต้องสื่อสารตามข้อตกลงอย่างมั่นคง และ
                                                         ต่อเนื่อง
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13