Page 47 - คุณค่า คุณภาพ คุณธรรม ถอดบทเรียนงานประชุมวิชาการ
P. 47
B3-200
19th HA National Forum
สมัยท่ีผมไปทางานที่โรงพยาบาลชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ไปออกหน่วยท่ีตาบลที่ไกลมากๆ แห่งหน่ึง ปรากฏว่าคนเฒ่าคนแก่ท่ีนั่น บอกผมว่า เคยได้เจอหมอใหญ่คนหน่ึงเดินทางมาที่นั่นเมื่อหลายสิบปีก่อน ผมมาทราบภายหลังว่า หมอใหญ่ท่านน้ัน คือ นพ.มงคล ณ สงขลา “หมอมงคล” ในขณะนั้นประจาอยู่ที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซ่ึงในสมัยนั้น ขอบเขตของอาเภอพิมายครอบคลุมมาถึงพื้นท่ี ที่ต่อมาแยกเป็นอาเภอ ชุมพวงด้วย การเดินทางค่อนข้างยากลาบาก ทาให้ท่านต้องขี่ม้าแกรบออกไปให้การตรวจรักษาคนไข้ หน้าที่ของแพทย์จึงต้องคอยดูแลม้าและ ตดั หญา้ ใหม้ า้ อกี ดว้ ย ทา่ นเคยเลา่ ใหผ้ มฟงั วา่ มอี ยคู่ รง้ั หนงึ่ ระหวา่ งเดนิ ทางจะไปออกหนว่ ย ไดเ้ กดิ อบุ ตั เิ หตรุ ะหวา่ งทาง มา้ ทที่ า่ นควบไปดว้ ยความเรว็ เกิดสะดุดเข้าทาให้ท่านพุ่งลอยไปข้างหน้าและตกลงมาศีรษะกระแทกพื้นจนสลบไป นานเท่าไรไม่มีใครทราบ เพราะเดินทางไปคนเดียวเมื่อท่านฟื้น ข้ึนมาก็เห็นม้ากาลังเล็มกินหญ้าอยู่ข้างทางไม่ยอมทิ้งท่านไปไหน ท่านจึงเกิดความซาบซึ้งใจและถือว่าม้าตัวนี้เป็นม้าคู่ใจตลอดมา จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างกลับจากการออกพ้ืนที่ ฝนเกิดตกหนัก ม้าที่ท่านขี่ แม้จะทางานหนักมาแล้วท้ังวัน ก็ยังว่ิงมุ่งหน้ากลับมาที่โรงพยาบาลอย่างไม่ยอมหยุดพัก เม่ือมาถึงที่อนามัย ม้าอยู่ในสภาพหมดเรี่ยวแรงไม่สามารถขยับตัว ได้เลย ท่านต้องออกแรงดันม้าให้เข้าไปในคอกเพื่อจะได้พักผ่อน ปรากฏว่าเช้า วนั รงุ่ ขนึ้ เมอื่ ทา่ นมาดมู า้ คใู่ จของทา่ น กพ็ บวา่ มนั ไดเ้ สยี ชวี ติ ไปแลว้ เหตกุ ารณค์ รง้ั นน้ั ทา ใหค้ ณุ หมอมงคลมกั จะบอกกบั ตนเองเมอื่ ตอ้ งทา หนา้ ทส่ี า คญั ว่า “ขนาดม้ายังทาหน้าที่ของมันจนสาเร็จ แล้วเราเป็นคนจะทาอะไรก็ต้องทาให้สาเร็จเช่นกัน” ถ้าใครเคยทางานกับคุณหมอมงคลก็จะได้ทราบว่า ท่านเป็นคนท่ีมุ่งมั่น ทาอะไรก็จะต้องทาจนสาเร็จ ซึ่งการดาเนินนโยบายหลักประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรคในช่วง ที่ท่านเป็นปลัดกระทรวง และเรื่องซีแอลยาในช่วงที่ท่านเป็นรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นตัวอย่างของความสาเร็จซ่ึงอาจมีบทเรียนส่วนหนึ่งมาจากม้าคู่ใจก็เป็นไปได้ ผมมโี อกาสไดร้ จู้ กั กบั นายแพทยอ์ กี ทา่ นหนง่ึ ตงั้ แตเ่ มอ่ื ผมเปน็ เดก็ เตบิ โตอยทู่ จ่ี งั หวดั สรุ นิ ทร์ ครอบครวั ของผมมี นายแพทยพ์ รี ์ คา ทอน เปน็ หมอประจา บ้าน ท่านดูแลผมในตอนเด็กๆ ที่ผมป่วยเป็นโรคไทฟอยด์ แต่ต่อมาไม่นานท่านก็ย้ายไปทางานท่ีบ้านโป่ง ผมไม่ได้ติดตามเรื่องราวของท่านอีกเลย จนกระทั่งผมเรียนจบแพทย์และกาลังทางานเป็นแพทย์ชนบท วันหนึ่ง แม่ผมโทรศัพท์มาหาที่โรงพยาบาลและบอกว่า “หมอพีร์ตายแล้ว หมอพีร์ โดนยิงที่ร้อยเอ็ด” สาเหตุที่หมอพีร์ถูกยิงก็เพราะท่านได้รับมอบหมายให้ไปเป็นผู้อานวยการที่โรงพยาบาลร้อยเอ็ด ซ่ึงในขณะน้ันมีเร่ืองทุจริตเกิดขึ้น ความที่ท่านเป็นหมอมือสะอาดเป็นที่ไว้ใจของผู้บริหาร จึงถูกวางตัวให้ไปจัดการกับปัญหา แต่เรื่องกลับเลวร้ายกว่าท่ีคิด หมอพีร์ถูกยิงเสียชีวิตใน ปี พ.ศ. 2528 และเป็นอีกบุคคลหน่ึงที่การสาธารณสุขไทยควรค่าแก่การจดจา เม่ือคร้ังที่ หมอพีร์ คาทอน ไปทางานที่บ้านโป่ง ท่านได้ค้นพบโรค ฝนุ่ ละอองในกากออ้ ย (Bagassosis) เปน็ ครง้ั แรกในประเทศไทย ในคนโรงงานอตุ สาหกรรมกระดาษไทยบา้ นโปง่ จงั หวดั ราชบรุ ี คนงานเหลา่ นมี้ าพบ แพทยด์ ว้ ยอาการคลา้ ยภมู แิ พ้ แตเ่ มอื่ เอกซเรยป์ อดกลบั พบรอยโรคทแ่ี ปลกประหลาด เมอื่ ทา่ นศกึ ษาลกึ ลงไปกพ็ บวา่ อาชพี การทา งานในอตุ สาหกรรม กระดาษมกี ารใชก้ ากออ้ ยมาบดยอ่ ยเพอ่ื ใชเ้ ปน็ เยอ่ื กระดาษ ฝนุ่ ละอองจากกากออ้ ยทหี่ ลดุ เขา้ ไปในเนอ้ื ปอดไดท้ า ใหเ้ กดิ พยาธสิ ภาพในปอดขนึ้ นอกจาก ท่านจะได้สร้างผลงานวิชาการเพื่อการตีพิมพ์แล้ว ท่านยังพยายามศึกษาเพื่อหาทางแก้ปัญหานี้ให้กับคนงานให้ได้ จนกระท่ังพบว่ามีเทคโนโลยี การบดยอ่ ยกากออ้ ยทใี่ ชค้ วามชนื้ เพอื่ ลดการฟงุ้ กระจายของฝนุ่ ละอองจากกากออ้ ย เมอ่ื ทา่ นนา เอาเทคโนโลยนี มี้ าใช้ ปญั หาโรคปอดจากฝนุ่ ละอองใน กากออ้ ยกห็ มดไปจากบา้ นโปง่ จนถงึ ทกุ วนั นี้ แตเ่ หตกุ ารณใ์ นปี พ.ศ.2528 กไ็ ดท้ า ใหเ้ ราสญู เสยี แพทยท์ เี่ กง่ และดคี นหนง่ึ ไป ปจั จบุ นั เรามกี องทนุ หมอพรี ์ คาทอน อยู่ที่โรงพยาบาลจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นอนุสรณ์ให้เราระลึกถึงความดีงามของท่าน
สถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (องค์การมหาชน) 47