Page 3 - wat
P. 3
ยง” ตามชื่อของหมู่บ้าน เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๘ เพื่อได้เป็นที่บ าเพ็ญบุญของ
ประชาชนและเป็นที่ถือน้ าพระพิพัฒน์สัตยาส าหรับเมืองเป็นต้นมา
วัดตุยงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ.
๒๔๓๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสแหลมมลายู
ทรงเยี่ยมพสกนิกรเมืองหนองจิก ทรงประทับ ณ วัดตุยง ทรงมีพระราช
ปฏิสันถารกับพระครูวิบูลย์สมณวัตร (หลวงพ่อทวด
นวล เทวธมฺโม) เจ้าอาวาส พระราชทานพระราชทรัพย์
ส่วนพระองค์ จ านวน ๒๐ ชั่ง แก่พระยามุจลินทรส
ราภิธานนคโรปการสุนทรกิจมหิศรราชภักดี (ทัด ณ
สงขลา) ผู้ว่าราชการเมืองหนองจิก ด าเนินการสร้าง
อุโบสถขึ้นใหม่แทนหลังเก่าที่หลวงพ่อทวดพรหมและ
พระยาวิเชียรภักดี- ศรีสงครามได้สร้างไว้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานนามวัด
ใหม่เป็น “วัดมุจลินทวาปีวิหาร” และได้พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์
แก่วัดมุจลินทวาปีวิหาร ซึ่งได้ติดไว้ที่พระอุโบสถ ดังปรากฏในพระ
ราชหัตถเลขา ประพาสแหลมมลายูของพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง
รัชกาลที่ ๕ ได้น ามาลงไว้เพียงตอนเสด็จเมืองหนองจิก ดังต่อไปนี้
พระราชหัตถเลขาฉบับที่ ๓
เรือพระที่นั่งอุบลบุรทิศ
วันที่ ๔ สิงหาคม รัตนโกสินทรศก ๑๐๘
ถึง ท่านกลางและกรมหลวงเทวะวงศ์วโรปการ
ด้วยจดหมายระยะทางฉบับที่ ๒ บอกแจ้งความมาเพียงวันที่ ๒๙ บัดนี้จะขอ
บอกรายวันระยะทางต่อไป
ในวันที่ ๒๙ กรกฎาคมนั้นได้ออกเรือจากเมืองสงขลา วันที่ ๓๐ มาถึงเมือง
หนองจิกเวลาเช้าโมงหนึ่ง ที่ทอดสมอไม่มีอ่าวเกาะอันใดบังลม เหมือนกันกับหัวเมือง
~ ๓ ~