Page 4 - wat
P. 4

ตอนล่างๆ ทั้งปวง แลไม่มีสิ่งที่จะเปนส าคัญส าหรับจ าแน่นอนเปนเครื่องหมายอย่างไร

               นอกจากอาศรัยแผนที่ ด้วยมีเขาใหญ่ลูกหนึ่งก็ดูเหมือน ๆ กับเขาทั้งปวง ไม่แปลก
               ประหลาดอันใด เรียกชื่อว่าเขาใหญ่  พระยาหนองจิก ลงมาหาในเรือ ได้ไต่ถามด้วยเรื่อง

               เขตแดนแลการต่าง ๆ แจ้งว่าข้างเหนือต่อแขวงเมืองเทพา ระยะทางเดินวันหนึ่ง ข้าง

               ตะวันตกต่อเมืองจะนะ ตวันตกกึ่งใต้ต่อจะแหน ทางไปสองวันทั้งสองต าบล ตะวันตก
               เฉียงใต้ต่อเมืองยะลาทางวันหนึ่ง ทิศใต้ต่อเมืองตานี เดิรตามชายทเลชั่วโมงหนึ่ง แขก

               ราษฎรมีประมาณสามพันหลังเรือน คนไทยประมาณสองร้อยคน เก็บเงินต้นไม้ทองเงิน
               แต่พวกแขก พระยาหนองจิกคนนี้ได้ว่าการบ้านเมืองลดลง เก็บแต่คนละสองเหรียญ ว่า

               ได้อยู่ในปีละสี่พันเหรียญ เห็นผิดกันกับจ านวนเรือนมากนัก ที่เปนดังนี้ ด้วยถามถึงคน
               มากคนน้อย ก าลังบอกการบ้านเมืองเจริญอยู่ จ านวนเรือนจึงได้มาก จ านวนเงินน้อยไป

               นั้นก็เพราะเปนเงินคนไทยที่ว่าสองร้อยคน เก็บเงินส่งสงขลาคนหนึ่งปีละสองเหรียญ ได้

               เงินปีละ สี่ร้อยเหรียญ แบ่งไว้เปนค่าเก็บ ๕๐ เหรียญ ส่งปีละ ๑๕๐ เหรียญ  แต่เมื่อฉัน
               พบพระครูวิบูลย์สมณวัตร แจ้งว่าพระสงฆ์มีถึง ๑๖๐ ฤๅ ๑๘๐ คนสองร้อยเท่านั้น เลี้ยง

               พระสงฆ์ถึงเท่านี้ทุกวัน แล้วแต่จะโปรด เห็นจะเปนครั่นคร้ามพวกสงขลามาก ด้วยตัว

               พระยาหนองจิกก็สงขลาอยู่เอง ได้ความเช่นนี้จึงมิรู้ที่จะบอกแน่อย่างไรได้ในเรื่องคน
               การท ามาหากินในเมืองนี้ มีแต่ท านาอย่างเดียว บางปีเข้าได้ออกจากเมืองบ้างแต่ไม่มาก

               นัก สินค้าขาออกอาศรัยของมาแต่เมืองยะลา  ที่เมืองนี้คอยแต่เก็บค่าด่าน ที่ว่า
               สินค้าออกนั้นก็ออกไปเมืองตานีทั้งนั้น สินค้าเข้าก็มาทางเมืองตานีนั้น ไม่มีจีนเลยสักคน

               เดียว เพราะไม่มีการค้าขายอันใดเช่นนี้ ตลาดก็มีแต่ร้านช าสองร้านสามร้าน ถ้าจะกิน
               ของสดหมูเปดไก่ก็ไปซื้อที่ตลาดเมืองตานี แต่ปลามีราษฎรท าอยู่มาก เปนคนเมืองกลัน

               ตันบ้าง เมืองอื่นบ้างขึ้นมาท าที่หาดทรายปากอ่าวทั้งสองฟากมีเรือนกว่าร้อยหลัง    ล า

               น้ ามีหาดทรายขวางน่า เวลาน้ าลงแห้งต้องเข็นเรือประมาณสักยี่สิบวา ต่อเข้าไปข้างใน
               ลึกน้ าจืดสนิท เพราะแม่น้ าไหลมาแต่ที่ยะรมเมืองรามัน ผ่านเมืองยะลาลงมา เวลาจวน

               ๕ โมงเช้าขึ้นบก เขาท าพลับพลารับที่ปากน้ า  พระยาตานี มาคอยอยู่สี่วันแล้วพึ่ง

               กลับไป พระยาหนองจิกให้ไปบอกก็ขึ้นมาพร้อมด้วยพระศรีบุรีรัฐพินิจ พระพิพิธภักดี
               หลวงจีนคณานุรักษ์ ทราบว่าศาลาการเปรียญที่วัดเมืองตานีซึ่งฉันสร้างไว้นั้นเกือบจะ

               แล้วเสร็จ จึงคิดว่าเปนโอกาศดีพอที่จะฉลองได้ จึงปล่อยให้พวกเมืองตานีกลับไปจัดการ
               รับที่เมืองตานี แลให้นัดเมืองยิหริ่งซึ่งได้ไต่ถามดูลู่ทางเห็นพอจะไปได้อีกเมืองหนึ่ง ให้

               ปักกรุยร่องน้ าไว้คอยรับ แต่ตัวพระยายิหริ่งและพระโยธานุประดิษฐว่าขึ้นไปต้องคดีอยู่

                                                 ~ ๔ ~
   1   2   3   4   5   6   7   8   9