Page 14 - NSAIDs
P. 14
11
ขอควรระวงในการใชยา
ั
้
้
ิ
ิ
ี
่
เกดผลข้างเคยงตอระบบทางเดนอาหาร
ี
่
้
ผลขางเคยงตอระบบทางเดนอาหาร ในผู้ทไดรับยา NSAIDs ไดแก ่
ิ
้
้
ี
(1) อายมากกว่า 60 ป
ุ
ิ
ี
ิ
ี
ี
เปนผลข้างเคยงทสําคญและพบไดบ่อยทสุด ทาให้เกดอาการคลนไส้อาเจียน (2) มีประวัตเป นแผลในกระเพาะอาหาร
ํ
้
ั
ื
อาหารไม่ย่อย ปวดทอง ทองอด ถายเหลว หรือลาไส้เลก หรือมีเลอดออกในทางเดน
ื
้
้
่
็
ื
ํ
ิ
ื
ํ
ึ
ิ
เกดแผลในกระเพาะอาหารและลาไส้เลก มีเลอดออกในทางเดนอาหาร จนถง อาหาร
ิ
็
ํ
กระเพาะอาหารและลาไส้ทะลุ (3) มีการใช้ยา NSAIDs ร่วมกนมากกว่า
ั
ี
ิ
่
ื
ํ
ี
ิ
กลไกท NSAIDs ทาให้เกดอาการข้างเคยงตอระบบทางเดนอาหาร เนองจาก 1 ชนด หรือใช้ยาในขนาดสูงและตอเนอง
ื
่
ิ
ิ
(1) ผลโดยตรงจากการทตวยา NSAIDs มีคุณสมบัตเป นกรดออนๆ เป นเวลานานๆ
่
ั
ี
ี
ิ
ํ
(2) ยา NSAIDs ยับยั งการสร้างโปรสตาแกลนดน (prostaglandin) ททาหนาทลด (4) มีการใช้ยา NSAIDs ร่วมกบยาสเตย
ี
้
ี
ั
ื
ั
ิ
ํ
การหล งกรดและเคลอบกระเพาะอาหาร จึงทาให้เกดการระคายเคองตอกระเพาะ
่
ื
รอยด ์
อาหารและลาไส้ ทาให้เปนแผลและมีเลอดออกในทางเดินอาหารโดยปจจัยเสี ยงท ี
ํ
ํ
ื
ั
(5) มีการใช้ยา NSAIDs ร่วมกบยาตาน
้
ทาให้
ํ
ั
ื
การแข็งตวของเลอด
ื
้
(6) มีโรคประจําตวอนร่วมดวย เช่น โรค
ั
หลอดเลอดหัวใจ โรคไต โรคหอบหืด
ื
่
้
ี
ผลขางเคยงตอตบ
ั
ิ
ั
ในผู้ป วยทไดรับยาตานอกเสบชนดไม่ใช่สเตยรอยดจะพบว่ามีผลเลอดตบทผิดปกตถง
ื
ึ
ี
้
์
ั
้
ี
ิ
ี
ร้อยละ 15 และพบว่ามีตบอกเสบ
ั
ั
ั
ี
ื
ั
ี
ุ
ร้อยละ 1 โดยทผู้ป วยมักจะไม่มีอาการและหากหยดยาผลเลอดตบทอกเสบกจะกลบมา
ั
อย่ในระดบปกต ยาทพบผลข้างเคยงดงกลาวไดบ่อยไดแก diclofenac และ sulindac
่
ิ
ี
ี
ั
ั
ู
่
้
้
้
่
ี
ํ
ุ
ผลข้างเคยงทรนแรงจนทาให้ผู้ป วยเสียชีวิตพบนอยมากแตกเปนสาเหตุให้มีการถอน
็
ี
์
ทะเบียนยา nimisulide และ lumiracoxib ในหลายประเทศ รายงานจากองคการ
ู
้
อาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่าในผู้ป วยข้ออกเสบรมาตอยดทไดรับแอสไพริน จะ
ั
์
ี
็
ิ
ื
ี
ตรวจพบผลเลอดตบทผิดปกตไดร้อยละ 5.4 และในผู้ป วยเดกทไดรับแอสไพรินจะ
้
ั
ี
้
สัมพันธ์กบการเกดกลุมอาการ Reye
่
ิ
ั
้
่
ผลขางเคยงตอระบบหวใจและหลอดเลอด
ี
ื
ั
้
ํ
ื
์
ั
ิ
ยาตานอกเสบชนดไม่ใช่สเตยรอยดทุกตวทาให้เกดการค งของเกลอและนําในร่างกาย
ิ
ั
ี
ั
เปนผลให้ความดนโลหิตสูงขึน โดยความดนโลหิตจะเพิ มขึนประมาณ 3ถง 6
ั
ึ
ั
ิ
มม.ปรอท COX-2 specific inhibitorsออกฤทธ์ลดระดบของ prostacyclin ซึง
ั
มีหนาททาให้หลอดเลอดขยายตวโดยไม่มีผลตอระดบของ thromboxane A2 ซึง
้
่
ั
ํ
ื
ี
ั
ทาให้เกร็ดเลอดจับกลุมกน ดงน นในผู้ป วยทไดรับยา COX-2 specific inhibitors
้
ั
ื
่
ั
ี
ํ
ั
ิ
ุ
้
ื
จึงมีแนวโนมในการเกดการอดตนของเส้นเลอดเพิ มขึนโดยเฉพาะเส้นเลอดหัวใจ เปน
ื
ั
ี
เหตุให้มีการถอนทะเบียนยา rofecoxib และยา valdecoxib ในกรณีทผู้ป วยมีปจจัย
้
ิ
้
ั
่
้
เสี ยงตอหลอดเลอดตบ (ใช้แอสไพริน) ถาผู้ป วยจําเปนตองไดรับยาตานอกเสบชนด
ื
้
ี
ไม่ใช่สเตยรอยดแนะนาให้ใช้ยาในกลุม traditional NSAIDs ร่วมกบ proton
ี
่
ํ
์
ั
ี
ี
ิ
ิ
ื
pump inhibitor ส่วนในกรณทผู้ป วยเคยมีประวัตเลอดออกในทางเดนอาหารควร
หลกเลยงการใช้ยาตานอกเสบชนดไม่ใช่สเตยรอยดและใช้ยา proton pump
้
ั
์
ี
ี
ี
ิ
ั
inhibitor ร่วมไปกบการใช้แอสไพริน